Skip to content Skip to footer
พระช่วงเกษตรศิลปการ

คุณพระช่วงเกษตรศิลปการ สําเร็จการศึกษาปริญญาโททางเกษตร

  • ได้รับปริญญาลสิกรรมและสัตวบาลดุษฎีบัณฑิต (กิตติมศักดิ์) ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน 
  • ได้รับประกาศนียบัตรนิสิตเก่าดีเด่นของมหาวิทยาลัยวิสคอนซิล (อเมริกา)
  • ได้รับโล่นิสิตเก่าดีเด่นของสมาคมนิสิตเก่าคณะเกษตร มหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ และ
  • ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากรัฐบาลสเปน 

การรับราชการ

  • เป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรม 
  • หัวหน้าสถานีทดลองกสิกรรมภาคเหนือ ห้วยแม่โจ้ 
  • รักษาการในตําแหน่งอธิบดีกรมเกษตรฯ 
  • อธิบดีกรมปศุสัตว์ 
  • คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขน 
  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ

ความเป็นผู้ริเริ่ม 

  1. พ.ศ. 2462 นําเมล็ดมะละกอพันธุ์โกโก จากประเทศฟิลลิปปินส์ เข้ามาปลูกในเมืองไทยจนเป็นที่แพร่หลายจนทุกวันนี้
  2. พ.ศ. 2484 สมัยเป็นอธิบดีกรมเกษตรฯ ได้ตั้งบริษัทฝ้ายไทยจํากัดขึ้น
  3. สมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ ได้ตั้งองค์การ รายงานอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) และใน พ.ศ. 2492 ได้สั่งปลาหมอเทศ จากอินโดนีเซียมาเผยแพร่ ในเมืองไทย 
  4. เป็นผู้ริเริ่มเอาผลไม้ดังต่อไปนี้เข้ามาปลูกในเมืองไทย คือ ยาสูบ เวอร์ยิเนียร หอมหัวใหญ่ ท้อ องุ่น ขยายพันธุ์ลําไย ลิ้นจีพันธุ์ดีของจีน

บิดาเกษตรแม่โจ้ 

นับตั้งแต่สถานศึกษาเกษตรของภาคเหนือได้เริ่มเกิดขึ้น ณ แม่โจ้  คือ โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมแม่โจ้ เมื่อ พ.ศ. 2477 โดยมีอาจารย์ คุณพระช่วงฯ เป็นอาจารย์ใหญ่ และโรงเรียนนี้ได้เปลี่ยนไปเป็นโรงเรียน มัธยมวิสามัญเกษตรศาสตร์ วิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และโรงเรียนเตรียม เกษตรศาสตร์ จากนั้นก็โอนไปอยู่กระทรวงศึกษาธิการเป็นโรงเรียนเกษตรกรรมแม่โจ้ และได้เปลี่ยนชื่ออีก 2 – 3 ชื่อ จนเป็นสถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ อันเป็นเวลา 48 ปี อาจารย์คุณพระช่วงๆ ได้ทํานุ บํารุงและเฝ้าดูแลตลอดมา ถึงแม้จะพบจากหน้าที่ไปแล้วก็คอยสนับสนุน ช่วย เหลือและหาเวลามาเยี่ยมอยู่เสมอ

พ.ศ. 2518-2522 รับเป็นนายกสภาสถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ โดยบริจาคเงินจํานวน 5 หมื่นบาท เพื่อตั้งเป็นกองทุนนําดอกผลจ่ายเป็นทุน อุดหนุนแก่นักศึกษาของสถาบันฯ และได้บริจาคเงินเพื่อสมทบ โครงการพัฒนา ของสถาบันฯ อีกเดือนละ 2 พันบาท เป็นเวลา 4 ปี เป็นเงิน 94,000 บาท

เนื่องจากอาจารย์คุณพระช่วงๆ กับลูกศิษย์ทั้งหลายมีความสัมพันธ์กันอย่าง ใกล้ชิดเสมือนบิดากับบุตร ดังนั้น ท่านจึงได้รับสมญานามว่า “บิดาเกษตรแม่โจ้”

จากชีวิตการทํางานและผลงานของคุณพระช่วงๆ ดังที่กล่าวมาแล้วโดย สังเขป จะเห็นได้ว่าท่านเกิดมาเพื่อจรรโลงงานเกษตรของบ้านเมืองโดยแท้ ดําเนินชีวิตคลุกคลีอยู่กับงานด้านเกษตรตลอดเวลาที่ยาวนาน ทั้งผลงานที่ดีเด่นเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณะชนทั่วไปจึงนับว่าเป็นผู้ที่สมควรได้รับปริญญาเทคโนโลยีการเกษตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ เพื่อจะได้เป็นการยกย่องและประกาศเกียรติคุณให้เป็นที่ประจักษ์ ต่อสาธารณชนสืบไป

Go to Top