พลเอก ธีรเดช มีเพียร
ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์
พลเอก ธีรเดช มีเพียร สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี 1กโรงเรียน นายร้อยพระจุลจอมเกล้า เมื่อพุทธศักราช 2505 สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท จาก Wayne state University สหรัฐอเมริกา พุทธศักราช 2511 ได้รับปริญญา ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคําแหง พุทธศักรซ 2543 ได้รับประกาศนียบัตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสําหรับ นักบริหารระดับสูง จากสถาบันพระปกเกล้า เมื่อพุทธศักราช 2549 การศึกษา ด้านการทหาร พลเอก ธีรเดช มีเพียร ได้รับประกาศนียบัตรหลักสูตรต่าง ๆ มากมาย ได้แก่ ประกาศนียบัตรหลักสูตรผู้บังคับหมวดทหารปืนใหญ่ โรงเรียนทหารปืนใหญ่ ประกาศนียบัตรการรบแบบจู่โจม โรงเรียนทหารราบ ประกาศนียบัตรนักบิน ทหารบกโรงเรียนการบินทหารบก ประกาศนียบัตร U.S. Army Aviator Courses ประกาศนียบัตรหลักสูตรชั้นนายพันทหารปืนใหญ่โรงเรียนทหารปืนใหญ่ ประกาศนียบัตรหลักสูตรเสนาธิการทหารบก โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ประกาศนียบัตร U.S. Army Command And General Staff College ประกาศนียบัตร ส่งทางอากาศ (พลร่ม) จากโรงเรียนสงครามพิเศษ วุฒิบัตรวิทยาลัยการทัพบก วิทยาลัยการทัพบก และได้รับปริญญาบัตรจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เมื่อพุทธศักราช 2535
ด้านประวัติการทํางาน พลเอก ธีรเดช มีเพียร เริ่มรับราชการเป็น นายทหารสัญญาบัตรยศร้อยตรี เหล่าทหารปืนใหญ่สังกัดกองทัพบก เมื่อพุทธศักราช 2505 และปฏิบัติราชการด้วยความทุ่มเท เสียสละ อย่างเต็ม ภาคภูมิจนเกษียณอายุราชการเมื่อพุทธศักราช 2543 ในตําแหน่ง ปลัดกระทรวงกลาโหม ยศพลเอก โดยได้รับพระราชทานยศพลเรือเอกกับ พลอากาศเอกเพื่อเป็นเกียรติด้วย
พลเอก ธีรเตซ มีเพียร ได้ปฏิบัติหน้าที่ในราชการ โดยส่วนใหญ่ คํารงต าแหน่งผู้บังคับบัญชาและฝ่ายอํานวยการของหน่วยทหาร อาทิ พุทธศักราช 2517 – 2518 ตํารงตําแหน่งรองผู้บังคับกองพันกองพันทหาร ปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์กองทัพบก พุทธศักราช 2517-2539 ราชองครักษ์เวร กรมราชองครักษ์ พุทธศักราช 2533-2534 ตํารงตําแหน่งตุลาการศาลทหาร กรุงเทพ พุทธศักราช 2538 ดํารงตําแหน่งผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการทหารสูงสุด พุทธศักราช 2538-2540 ดํารงตําแหน่งตุลาการ ศาลทหารสูงสุด กระทรวงกลาโหม พุทธศักราช 2539-2540 ดํารงตําแหน่ง ผู้บัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองบัญชาการทหารสูงสุด พุทธศักราช 2539 ถึงปัจจุบัน ราชองครักษ์พิเศษ กรมราชองครักษ์ พุทธศักราช 2541-2543 ดํารงตําแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม กระทรวงกลาโหม ซึ่งรวมถึง การปฏิบัติงานตามภารกิจป้องกันประเทศทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังพัฒนาตนเองเสมอโดยเข้ารับการฝึกอบรมและศึกษาในหลักสูตร สําคัญตามแนวทางการรับราชการทั้งในประเทศและต่างประเทศ
พลเอก ธีรเดช มีเพียร ได้นําความรู้ด้านรัฐประศาสนศาสตร์ มาใช้ใน การทํางานเพื่อสร้างความเสมอภาคและยุติธรรมให้แก่ภาครัฐและประชาชน โดยมี ผลงานซึ่งแสดงถึงความสําเร็จอันเป็นแบบอย่างที่ดีหลายประการ อาทิ วางกรอบทิศทางในการดําเนินงานเกี่ยวกับจริยธรรมของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองและ เจ้าหน้าที่ของรัฐ พัฒนาเครือข่ายความร่วมมือการดําเนินการตามอํานาจหน้าที่ของ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมใหญ่สามัญสมาคมผู้ตรวจการ แผ่นดินแห่งเอเชียครั้งที่ 11 เพื่อพัฒนาความเป็นมืออาชีพในการปฏิบัติหน้าที่ของ ผู้ตรวจการแผ่นดินให้ก้าวหน้าในภูมิภาคเอเชีย โดยรวบรวมข้อมูล เผยแพร่ข้อมูล และผลการวิจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดิน อีกทั้งสนับสนุนให้ มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์อันเป็นประโยชน์แก่ประเทศสมาชิก ขณะดํารง ตําแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ปฏิบัติหน้าที่อันเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ เป็นอเนกประการ อาทิ ดำเนินการประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด การพัฒนาประสิทธิภาพของการเร่งรัดพัฒนาจังหวัด ชายแดนภาคใต้ ดําเนินงานมาตรการและแผนการป้องกันแก้ไขปัญหากรณีหมอก ควันจากไฟไหม้ป่าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ยังส่งเสริมและ พัฒนาข้าราชการในหน่วยงานให้ได้เข้ารับการฝึกในหลักสูตรต่าง ๆ ของ กองบัญชาการทหารสูงสุด กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และต่างประเทศ
นอกจากการปฏิบัติราชการในกระทรวงกลาโหมแล้ว พลเอก ธีรเดช มีเพียร ได้ดํารงตนอยู่ในความซื่อสัตย์และเสียสละเพื่อประเทศชาติ ทําให้ได้รับการยอมรับ และได้รับมอบหมายให้ดํารงตําแหน่งอื่น ๆ อาทิ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ ตํารงตําแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา เมื่อพุทธศักราช 2546 และเป็นประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พุทธศักราช 2550 ตํารงตําแหน่งประธานวุฒิสภาและรองประธานรัฐสภา พุทธศักราช 2554 เมื่อพุทธศักราช 2557 ได้รับการแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติ แห่งชาติ เพื่อปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิก รัฐสภาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังได้รับการแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งกรรมการ ในคณะกรรมการกํากับนโยบายรัฐวิสาหกิจ รองประธานกรรมการองค์การโทรศัพท์ แห่งประเทศไทย ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมการธนาคารทหารไทย จํากัด มหาชน
โดยที่ พลเอก ธีรเดซ มีเพียร เป็นผู้ประสบความสําเร็จอย่างยอดเยี่ยม ในวิชาชีพ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท ซื่อสัตย์สุจริต อีกทั้งได้ใช้ความรู้ ความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ อุทิศตนเพื่อบําเพ็ญกรณียกิจด้วยความคิดริเริ่ม จนเกิดประโยชน์แก่สังคม จึงนับเป็นบุคคลผู้มีเกียรติประวัติและคุณสมบัติเหมาะสม สมควรได้รับพระราชทานปริญญา ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ เพื่อเป็นเกียรติประวัติสืบไป
หมายเหตุ: ข้อมูลจากหนังสือพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ครั้งที่ 40 วันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ 2561