Skip to content Skip to footer

นายแผ่เกียรติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขา วิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อปีพุทธศักราช 2515 สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์สหกรณ์ จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ (แม่โจ้รุ่นที่ 48) เมื่อปีพุทธศักราช 2540 และสําเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เมื่อปี พุทธศักราช 2548

นายแผ่เกียรติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นผู้ที่มีความวิริยะอุตสาหะและได้ใช้ความรู้ความสามารถที่มีในการรับราชการในตําแหน่งนักสหกรณ์ นักวิชาการสหกรณ์ หัวหน้าหน่วยสหกรณ์นิคม สหกรณ์จังหวัด ผู้อํานวยการสํานักพัฒนาระบบบริหารการจัดการสหกรณ์ ในจังหวัดต่างๆ ได้แก่ กระบี่ กําแพงเพชร สุราษฎร์ธานี ตาก และจังหวัด ชุมพร มาตามลําดับตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2516 จนกระทั่งได้ดํารงตําแหน่งรองอธิบดี กรมส่งเสริมสหกรณ์ ในปีพุทธศักราช 2547 และในปีพุทธศักราช 2549 ได้ดํารง ตําแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จนกระทั่งถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ นายแผ่เกียรติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ยังเป็นคณะกรรมการสมาคมเศรษฐศาสตร์สหกรณ์แห่งประเทศไทย และเข้าร่วมในคณะทํางานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ เช่น การทําเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียง โครงการโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดน โครงการอาหารกลางวันสําหรับนักเรียนชาวไทยภูเขา เป็นต้น

ในระหว่างปฏิบัติงานในหน้าที่ นายแผ่เกียรติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ยังมี ผลงานที่เกี่ยวข้องซึ่งแสดงถึงความสําเร็จอันเป็นแบบอย่างที่ดีหลายประการ ได้แก่ การเป็นผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยได้ดําเนินการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศในด้านงานส่งเสริมสหกรณ์ ให้เกิดประโยชน์ต่อหน่วย งานโดยตรง และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง นายแผ่เกียรติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ยังได้ทําหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะในการเจรจาตกลงเพื่อสร้างเครือข่ายและความร่วมมือขององค์กรสหกรณ์ระหว่างประเทศ ส่งผลให้เกิดเครือข่ายทางธุรกิจของสหกรณ์ระหว่างประเทศ หลายเครือข่าย อาทิ เครือข่ายไทย – จีน เครือข่ายไทย-ญี่ปุ่น เครือข่ายไทย-นิวซีแลนด์ เป็นต้น

นายแผ่เกียรติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ยังเป็นผู้มีผลงานทางวิชาการดีเด่น โดยได้ค้นคว้าข้อมูลเพื่อทําวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับนิคมสหกรณ์ และการประเมินผลความสําเร็จของโครงการของรัฐบาล และยังทําหน้าที่เป็นคณะกรรมการกําหนดหลักเกณฑ์ แนวทางและวิธีการวิเคราะห์เงินกู้กองทุนพัฒนาสหกรณ์สําหรับสหกรณ์ประเภทต่าง ๆ เพื่อใช้เป็น คู่มือในการปฏิบัติงาน และเป็นคณะกรรมการกําหนดแนวทางการจัดทําคู่มือผู้ตรวจการ สหกรณ์ และคู่มือการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องของสหกรณ์ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานของ เจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยมีการเผยแพร่คู่มือต่าง ๆ เพื่อประโยชน์แก่สาธารณชนใน รูปแบบของหนังสือคู่มือ และยังได้เผยแพร่ผลงานด้านการส่งเสริมสหกรณ์ ทั้งด้านข้อมูล ข่าวสารทางด้านวิชาการ ด้านการเกษตร และด้านสหกรณ์ ผ่านทางเว็บไซต์ของกรม ส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งในแต่ละปีจะมีผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นจํานวนมาก

นายแผ่เกียรติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ยังเป็นผู้ริเริ่มนําปาล์มน้ำมันเข้ามาปลูกใน พื้นที่นิคมสหกรณ์อ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ในโครงการปลูกปาล์มน้ำมันแบบครบวงจรร่วม กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร รวมทั้งส่งเสริมให้มีโรงงานทดลองสกัดปาล์มน้ำมันขนาดเล็ก เพื่อลดต้นทุนในการขนส่งและแก้ปัญหาเรื่องราคา ซึ่งผลสําเร็จ ของโครงการทําให้สมาชิกสหกรณ์นิคมอ่าวลึกมีอาชีพหลัก มีรายได้ที่มั่นคง และขยายการปลูกปาล์มน้ำมันอย่างแพร่หลายในจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง จนทําให้ปัจจุบันปาล์มน้ำมันกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่สําคัญของภาคใต้และประเทศไทย ทั้งยังได้ ส่งเสริมให้ชุมนุมสหกรณ์ผู้ปลูกปาล์มน้ำมันกระบี่ ศึกษาพัฒนาตั้งโรงงานผลิตไบโอดีเซล จากน้ำมันปาล์มเพื่อนําไปใช้เป็นพลังงานทดแทน แก้ไขปัญหาด้านพลังงานของประเทศ นายแผ่เกียรติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ยังเป็นผู้ที่ส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ผลิตสินค้า เกษตรในระบบฟาร์มมาตรฐาน ซึ่งเป็นการผลิตที่ปลอดภัย มีการควบคุมการใช้สารเคมีที่ ถูกต้อง และตรวจรับรองคุณภาพของผลผลิต เป็นผลให้ผลผลิตการเกษตรมีคุณภาพ สร้างสุขอนามัยแก่ผู้บริโภคและเป็นผลดีต่อการค้าตามข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) และ นายแผ่เกียรติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ยังเป็นผู้มีความเสียสละ อุทิศแรงกายแรงใจ ส่งเสริม และสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของสมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้มาโดยตลอด

โดยที่ นายแผ่เกียรติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นข้าราชการซึ่งประพฤติปฏิบัติตน ตามแบบแผนแห่งทางราชการ ใฝ่ศึกษาหาความรู้เพื่อพัฒนาตนเองอันจะนํามาซึ่งประโยชน์ของหน่วยงาน อุทิศตนเพื่อประโยชน์ต่องานราชการ และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความ วิริยะอุตสาหะ ซื่อสัตย์ สุจริต จนประสบความสําเร็จอย่างยอดเยี่ยม สมควรได้รับยกย่อง ให้เป็นแบบอย่างแก่บุคคลทั่วไป นับเป็นบุคคลที่มีเกียรติประวัติและคุณสมบัติเหมาะสม สมควรได้รับการสดุดีเกียรติคุณเป็นศิษย์เก่าแม่โจ้ดีเด่น เพื่อเป็นเกียรติประวัติสืบไป

Go to Top