Views: 201
การจัดการปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับเชื้อราอาบัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาปรับปรุงดินในระยะปรับเปลี่ยนเพื่อเข้าสู่ระบบเกษตรอินทรีย์
ชื่อเรื่องอื่น
ดร.ผานิตย์ นาขยัน
คณะผลิตกรรมการเกษตร
บทคัดย่อ
การศึกษามีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงสมบัติของปุ๋ยหมักมูลสัตว์ร่วมกับสปอร์ของเชื้อราไมคอร์ไรซา ผลของการใช้ปุ๋ยหมักร่วมเชื้อราอาบัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาต่อการเจริญเติบโตในระบบปลูกข้าวไร่และ ข้าวโพด และการใช้พืชร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์และเชื้อราไมคอร์ไรซาต่อการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีและฟิสิกส์ของดินที่ผ่านการทําเกษตรเคมี ทําการศึกษาการเปลี่ยนแปลงสมบัติของปุ๋ยหมักมูลสัตว์ร่วมกับสปอร์ของเชื้อรา ไมคอร์ไรซา โดยศึกษาสมบัติของปุ๋ยหมักมูลสัตว์หลังการหมักของสัปดาห์ที่ 1, 4 และ 8 และนําไปวิเคราะห์สมบัติของปุ๋ยอินทรีย์ ศึกษาผลของการใช้ปุ๋ยหมักร่วมเชื้อราอาบัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาต่อการเจริญเติบโตในระบบปลูกข้าวไร่และข้าวโพด โดย าเนินการในแปลงเกษตรกร
วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงสมบัติของปุ๋ยหมักมูลสัตว์ร่วมกับสปอร์ของเชื้อราไมคอร์ไรซา
2.เพื่อศึกษาผลของการใช้ปุ๋ยหมักร่วมเชื้อราอาบัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาต่อการเจริญเติบโตในระบบปลูกข้าวไร่และข้าวโพด
3.เพื่อศึกษาการใช้พืชร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์และเชื้อราไมคอร์ไรซาต่อการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีและฟิสิกส์ของดินที่ผ่านการทําเกษตรเคมี
วิธีการดำเนินงาน
การศึกษาโครงการย่อยที่ 1 การศึกษาการเปลี่ยนแปลงสมบัติของปุ๋ยหมักมูลสัตว์ร่วมกับสปอร์
ของเชื้อราไมคอร์ไรซา
การเตรียมปุ๋ยหมักร่วมกับสปอร์ไมโครไรซ่าสำหรับการศึกษาสมบัติของปุ๋ยอินทรีย์
นําปุ๋ยหมักมูลหมูและปุ๋ยหมักมูลวัว ชั่งน้ำหนักปุ๋ยคอกทั้งสองชนิด ๆ ละ 2 กิโลกรัมพร้อมกับใส่ จํานวนสปอร์ตามสัดส่วนของปุ๋ยที่ใช้ แล้วนําไปบ่มและหมักไว้โถพลาสติกขนาด 20 ลิตร และปิดฝาในช่วงหมักประกอบด้วย 3 ซ้ำโดยเก็บตัวอย่างปุ๋ยเพื่อวิเคราะห์ธาตุอาหารและสมบัติของปุ๋ยหลังการบ่ม 7, 28, และ 56 วัน ตามลําดับ
การศึกษาโครงการย่อยที่ 2 ผลของการใช้ปุ๋ยหมักร่วมเชื้อราอาบัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาต่อการ เจริญเติบโตในระบบปลูกข้าวไร่และข้าวโพด
ดำเนินการในแปลงเกษตรกร โดยมีเงื่อนไขการศึกษา โดยใช้แผนการศึกษาแบบ RCBD โดยมีรายละเอียดดังนี้
Methods | Reference |
pH | กรมวิชาการเกษตร, 2541 |
EC | กรมวิชาการเกษตร, 2541 |
TOM | (Nelson and Sommers, 1996) |
Total N | (Bremner, 1965) |
Total P | (Jones et al., 1991) |
Total K | (Walinga et al., 1989) |
% การงอก | รมวิชาการเกษตร, 2541 |
การศึกษาโครงการย่อยที่ 3 การใช้พืชร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์และเชื้อราไมคอร์ไรซาต่อการ เปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีและฟิสิกส์ของดินที่ผ่านการทําเกษตรเคมี
- แผนการทดลอง
การวางแผนการทดลองแบบ Randomize Complete Block Design (RCBD) จํานวน 3 ซ้ำใช้ พื้นที่ปลูกข้าวไร่ของเกษตรกร โดยมีชนิดของปุ๋ยอินทรีย์ คือ
1.ชุดควบคุม
2.ปุ๋ยหมัก
3.ปุ๋ยหมัก+ AME ชนิดที่ 1
4. ปุ๋ยหมัก+ AMF ชนิดที่ 2 โดยมีราละเอียด ดังต่อไปนี้
ตำรับการทดลอง | สัญญาลักษณ์ | รายละเอียด |
C1 | Cno | ไม่ใส่ปุ๋ย |
C2 | Cs | ปุ๋ยหมักกากถั่วเหลือง |
C3 | Crs | ปุ๋ยหมักฟางข้าว |
C4 | Cs+rs | ปุ๋ยหมักกากถั่วเหลือง+ฟางข้าว |
T1 | Tsrsgg | ปุ๋ยหมักกากถั่วเหลือง+ปุ๋ยหมักฟางข้าวร่วมกับหัวเชื้อGG |
T2 | Tsrsgm | ปุ๋ยหมักกากถั่วเหลือง+ปุ๋ยหมักฟางข้าวร่วมกับหัวเชื้อGM |
T3 | Tsrsge | ปุ๋ยหมักกากถั่วเหลือง+ปุ๋ยหมักฟางข้าวร่วมกับหัวเชื้อGE |
T4 | Tsrsg+e | ปุ๋ยหมักกากถั่วเหลือง+ปุ๋ยหมักฟางข้าวร่วมกับหัวเชื้อG+E |
T5 | Tsrsaf | ปุ๋ยหมักกากถั่วเหลือง+ปุ๋ยหมักฟางข้าวร่วมกับหัวเชื้อAF |
T6 | Tsrs5 | ปุ๋ยหมักกากถั่วเหลือง+ปุ๋ยหมักฟางข้าวร่วมกับหัวเชื้อทั้ง 5 ชนิด |
2 วิธีการศึกษา
2.1 การเตรียมเมล็ดข้าวโพดและการปลูก
มีการขึ้นแปลงและตากดินไว้ 3-5 วัน ยกร่องพร้อมปลูกสูง 25-30 ซม. ระยะห่างระหว่างแปลง 30 ซม. ระยะห่างระหว่างหลุม 25 เซนติเมตร ขนาดแปลง 1m x 4m ในขณะเดียวกันมีการเตรียมเมล็ด

2.2 การใส่ปุ๋ย (ตามทรีท์เมนต์) แบ่งใส่ 2 ครั้งคือ หลังถอนแยก 20 และ 40 วัน
การเตรียมปุ๋ยผสมเชื้อราดไมคอร์ไรซา
หัวเชื้อดินไมคอร์ไรซาที่ใช้ในการศึกาครั้งนี้ ได้แก่ Glomus etunicatum, Glomus geosporum, Glomus mossaac, Glomus foveata นำปุ๋ยหมักฟางข้าวที่หมักสมบูรณ์แล้ว 25 กรัม ผสมกับหัวเชื้อดินไมคอร์ไรซา 25 กรัม คุลกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำปุ๋ยคลุกเคล้ากับดินในแปลงทดลอง

การตรวจหาเชื้อราอาบัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาในราก (Root colonization)
การตรวจหาเชื้อราอาบัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาในรากด้วยการย้อมสีรากพืช ตามวิธีของ McGonigle และ คณะโดยนำตัวอย่างรากพืชมาล้างน้ำให้สะอาด นำไปต้มในน้ำยาโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ เข้มข้น 10 เปอร์เซ็นต์ (10% KOH) อุณหภูมิ 121 องศาเซลเซียส 4 นาที แล้วล้างด้วยน้ำ จากนั้นซับพอหมาด นำไปย้อมด้วย 0.05% trypan blue ใน tactoglycerol ที่อุณหภูมิไม่เกิน 121 องศาเซลเซียลนาน 4 นาที จากนั้นนำรากวางบนสไลด์แล้วส่องดูใต้กล้องจุลทรรศน์
สรุปผล
จากการศึกษาเปลี่ยนแปลงสมบัติของปุ๋ยหมักมูลสัตว์ร่วมกับสปอร์ของเชื้อราไมคอร์ไรซา พบว่าปุ๋ยมูลหมูมีคุณสมบัติทางปุ๋ยอินทรีย์สูงกว่าปุ๋ยมูลวัวอย่างมีนัยทางสถิติตลอดระยะเวลาการหมัก 56 วัน และเชื้อ G.etunicatum มีประสิทธภาพต่อการเปลี่ยนแปลงปุ๋ยอินทรีย์มากที่สุด โดยอัตราการเปลี่ยนแปลง นั้นสามารถแบ่งเป็น 2 ช่วง โดยช่วงแรกปุ๋ยทั้งสองมีกิจกรรมที่เกิดขึ้นจากจุลินทรีย์ต่าง ๆ เกิดกระบวนการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุที่อยู่ในปุ๋ยหมัก และเมื่อเวลาผ่านไป กระบวนการเหล่านี้จะลดลงก็จะทำให้กิจกรรมของจุลินทรีย์มีอัตราลดลงจนถึงที่ต่ำสุดและคงที่เมื่อสิ้นสุดการหมักปุ๋ย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่จะนำไปใช้ในการประเมินความสมบูรณ์ในการหมักของปุ๋ยหมัก และเชื้อ G.etunicatum มีประสิทธิภาพต่อการเปลี่ยนแปลงปุ๋ยอินทรีย์มากที่สุด การวิเคราะห์ดินตามการใส่เชื้อไมคอร์ไรซาแต่ละชนิด พบว่าในฤดูปลูกที่ 1 ค่า P และ Water Soluble Carbon (WSC) ใส่เชื้อ G.mosseae (GM) มีค่าสูงสุด, ค่า NO3- และNH4+ ที่ใส่เชื้อทุกชนิด มีค่าสูงสุด และในฤดูปลูกที่ 2 ค่า pH และ Zn ที่ใส่เชื้อ G.geosporum (GG) มีค่าสูงสุด ค่า K ที่ใส่เชื้อ A.foveata (AF) มีค่าสูงสุด
ข้อมูลจาก สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการเกษตร
ภาพหน้าปกจาก pixabay.com
รศ.ดร.ศุภธิดา อ่ำทอง
คณะผลิตกรรมการเกษตร
2565