องค์ความรู้
-
คู่มือ การเลี้ยงสุกรพันธุ์
in องค์ความรู้การเลี้ยงสุกรและการคัดเลือกพันธุ์เพื่อผลผลิตที่มีคุณภาพ การเลี้ยงสุกรเป็นกระบวนการที่ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงสุดและตอบสนองความต้องการของตลาด ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการเลี้ยงสุกรได้แก่ พันธุ์สุกรที่ดี อาหารที่เหมาะสม โรงเรือนที่มีคุณภาพ การจัดการที่ดี และการป้องกันโรค ซึ่งการประยุกต์ใช้แต่ละปัจจัยอย่างเหมาะสมจะส่งผลต่อความเจริญเติบโตและสุขภาพของสุกรโดยรวม 1. พันธุ์สุกรที่ดี การคัดเลือกพันธุ์สุกรที่ดีเป็นพื้นฐานสำคัญในการเลี้ยงสุกรที่ประสบผลสำเร็จ สุกรพันธุ์ดีจะต้องมีลักษณะโตเร็ว แข็งแรง ปลอดโรค และมีประสิทธิภาพในการใช้อาหารสูง พันธุ์สุกรที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทยได้แก่ สุกรพันธุ์แลนด์เรซ (Landrace) ซึ่งมีต้นกำเนิดจากประเทศเดนมาร์ก มีลักษณะรูปร่างยาว หูยาว และโครงสร้างแข็งแรง อีกทั้งยังมีการเจริญเติบโตที่รวดเร็วและเลี้ยงลูกเก่ง สุกรพันธุ์ลาร์จไวท์ (Large White) ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศอังกฤษ เป็นสุกรที่มีการเติบโตเร็วและมีคุณภาพเนื้อดี สุกรพันธุ์ดูร็อค (Duroc) ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในอเมริกา มีลักษณะเด่นที่เนื้อแดง และสุกรพันธุ์เปียแตรง (Pietrain) ที่มีลักษณะโครงสร้างแข็งแรงและมีคุณภาพเนื้อสูง แต่มีการเลี้ยงลูกไม่เก่งเท่าพันธุ์อื่น ๆ 2. อาหารที่มีคุณภาพ อาหารที่ใช้เลี้ยงสุกรเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตของสุกร อาหารที่ดีควรมีสารอาหารครบถ้วน มีปริมาณโปรตีนและพลังงานที่เพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตของสุกร โดยต้องปราศจากสารพิษหรือสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของสุกร และควรมีต้นทุนที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เป็นภาระทางเศรษฐกิจต่อผู้เลี้ยง 3. โรงเรือนที่เหมาะสม โรงเรือนสำหรับเลี้ยงสุกรควรมีการออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เพื่อให้สุกรมีความเป็นอยู่ที่ดี มีการระบายอากาศที่ดีและป้องกันจากสภาพอากาศที่แปรปรวน เช่น ฝนและลมแรง โรงเรือนควรมีโครงสร้างที่แข็งแรงและปลอดภัย นอกจากนี้ยังต้องมีระบบระบายน้ำที่ดีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมขังในโรงเรือน ซึ่งอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้…
-
การพัฒนาเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชสมุนไพรที่เหมาะสมสำหรับการเรียนการสอน
in องค์ความรู้การพัฒนาเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชสมุนไพรมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสนับสนุนความมั่นคงทางการเกษตรและเศรษฐกิจของประเทศ โดยเทคนิคนี้ช่วยให้สามารถขยายพันธุ์พืชได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการนำเข้ายาและผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ ซึ่งส่งเสริมการใช้ทรัพยากรสมุนไพรในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่พืชสมุนไพรไทยที่เป็นทรัพยากรอันมีคุณค่า เทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชเน้นการเตรียมอาหารสำหรับเลี้ยงเนื้อเยื่อให้สะอาดและมีแร่ธาตุที่เหมาะสม เช่น อาหารสูตร MS ซึ่งประกอบด้วยธาตุอาหารหลักอย่างไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม (NPK) รวมถึงสารอาหารรอง ฮอร์โมน และวิตามินที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อพืช ขั้นตอนการฟอกฆ่าเชื้อชิ้นส่วนพืชก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากจุลินทรีย์ โดยใช้สารฟอกฆ่าเชื้อ เช่น เอทิลแอลกอฮอล์ และคลอร๊อกซ์ ในความเข้มข้นที่เหมาะสม โครงการนี้ได้จัดกิจกรรมฝึกอบรมแก่นักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในพื้นที่อำเภอละแม จังหวัดชุมพร และอำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมทั้งหมด 5 โรงเรียน มีผู้เข้าร่วมจำนวน 237 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และทักษะด้านการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชสมุนไพร ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในการเรียนการสอน รวมถึงการสร้างอาชีพเสริมที่ยั่งยืนในชุมชนของตน การพัฒนาเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชสมุนไพรนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างองค์ความรู้ให้แก่นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไป แต่ยังเป็นการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรสมุนไพรอย่างมีประสิทธิภาพ การอนุรักษ์ความหลากหลายของพืชสมุนไพรไทย และการประยุกต์ใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพ ซึ่งเป็นการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นและสร้างเอกลักษณ์ของชาติให้คงอยู่ในอนาคต เจ้าของผลงาน: นางณิชาพล บัวทอง, อาจารย์นาตาลี อาร์ ใจเย็น, น.ส.สายทอง สุจริยพงศ์พร, ผศ.ดร.กมลวรรณ ศุภวิญญู, ผศ.ยุทธนา สว่างอารมย์ หน่วยงาน:…
-
สูตรการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากมะเกี๋ยง มะเกี๋ยงหยี๋
in องค์ความรู้การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากมะเกี๋ยง: มะเกี๋ยงหยี๋ มะเกี๋ยงเป็นผลไม้พื้นเมืองทางภาคเหนือของประเทศไทย มีลักษณะผลคล้ายลูกหว้าแต่ขนาดเล็กกว่า มีสีม่วงแดง และมีรสเปรี้ยวเข้มข้น ซึ่งมะเกี๋ยงนี้อุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานินที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง อย่างไรก็ตาม มะเกี๋ยงเป็นผลไม้ที่เสื่อมเสียได้ง่ายหลังการเก็บเกี่ยว ดังนั้นการแปรรูปเป็นมะเกี๋ยงหยี๋จึงเป็นหนึ่งในกระบวนการที่ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาและเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตร ส่วนผสมมะเกี๋ยงหยี๋ ส่วนผสมผงหยี๋ ขั้นตอนการทำมะเกี๋ยงหยี๋ การแปรรูปมะเกี๋ยงเป็นมะเกี๋ยงหยี๋ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มมูลค่าและยืดอายุการเก็บรักษาผลผลิต แต่ยังสามารถช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรได้อีกด้วย เนื่องจากมะเกี๋ยงหยี๋เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในรสชาติ สามารถเก็บรักษาได้เป็นเวลานานถึง 3 เดือน และบรรจุในภาชนะปิดสนิทเพื่อป้องกันความชื้น การผลิตน้ำมะเกี๋ยงพร้อมดื่มด้วยวิธีพาสเจอร์ไรส์ น้ำมะเกี๋ยงเป็นเครื่องดื่มที่มีความสดชื่นและยังคงคุณค่าทางโภชนาการจากมะเกี๋ยง โดยในกระบวนการผลิตนั้นใช้วิธีพาสเจอร์ไรส์เพื่อทำลายจุลินทรีย์ก่อโรคและยืดอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ให้นานยิ่งขึ้น ส่วนผสมในการผลิตน้ำมะเกี๋ยง ขั้นตอนการผลิตน้ำมะเกี๋ยง การผลิตน้ำมะเกี๋ยงนี้ใช้กระบวนการพาสเจอร์ไรส์ที่เหมาะสมเพื่อช่วยยืดอายุการเก็บรักษาและคงความสดชื่นของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องดื่มที่มีคุณค่าทางโภชนาการจากผลไม้พื้นเมืองของไทย การผลิตเชอร์เบทมะเกี๋ยง: ไอศกรีมจากผลไม้พื้นเมือง เชอร์เบทมะเกี๋ยงเป็นไอศกรีมชนิดหนึ่งที่ผลิตจากเนื้อมะเกี๋ยงและมีปริมาณไขมันต่ำกว่าปกติ ทำให้ได้รสชาติที่เปรี้ยวหวานสดชื่นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความอร่อยในแบบสุขภาพดี เชอร์เบทมีความแตกต่างจากไอศกรีมทั่วไปเนื่องจากมีผลึกน้ำแข็งที่หยาบกว่าและไขมันน้อยกว่า ส่วนผสมในการผลิตเชอร์เบทมะเกี๋ยง ขั้นตอนการผลิตเชอร์เบทมะเกี๋ยง การผลิตเชอร์เบทมะเกี๋ยงเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมในการใช้ประโยชน์จากผลไม้พื้นเมือง และยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับมะเกี๋ยง การบริโภคเชอร์เบทมะเกี๋ยงนอกจากจะได้ความอร่อยแล้วยังได้รับคุณค่าทางโภชนาการและประโยชน์จากสารแอนโทไซยานินที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย เรียบเรียงโดย: ดร.พัตรเพ็ญ เพ็ญจารัส, ผศ.ดร.อิศรา วัฒนนภาเกษม, ดร.สุภารัตน์ อำนาจ, นางสุรัลชนา มะโนเนือง, นายอนุกูล จันทร์แก้ว, นางสาวอังคณา ชมภูมิ, นางสาวบังอร ปินนะหน่วยงาน : ศูนย์เรียนรู้การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผลผลิตเกษตรอินทรีย์มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่…
-
คู่มือ นวัตกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำระบบปิด เพื่อการผลิตสัตว์น้ำแบบปลอดภัยและคุณภาพสูง
in องค์ความรู้หนังสือคู่มือ “นวัตกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำระบบปิดเพื่อการผลิตสัตว์น้ำปลอดภัยและคุณภาพสูง” นี้มีเนื้อหาที่ครอบคลุมเกี่ยวกับนวัตกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำที่เน้นการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของผลผลิต โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยที่จัดทำโดยนักวิจัยจากคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และเพิ่มศักยภาพการเลี้ยงปลาเศรษฐกิจในชุมชนภาคเหนือให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาหลักเกี่ยวกับนวัตกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำใน ระบบหมุนเวียนน้ำ (Recirculating Aquaculture System หรือ RAS) และ ระบบไบโอฟลอค (Biofloc) ซึ่งทั้งสองระบบนี้ช่วยให้เกษตรกรสามารถควบคุมคุณภาพและปริมาณผลผลิตได้ดีกว่าการเลี้ยงในบ่อดินแบบเดิม ทั้งนี้ยังช่วยลดการใช้น้ำในการผลิต ทำให้การเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่จำกัดสามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูงขึ้น โดยรายละเอียดของระบบทั้งสองมีดังนี้: 1. การเลี้ยงสัตว์น้ำระบบหมุนเวียนน้ำ (Recirculating Aquaculture System, RAS) ระบบ RAS เป็นเทคนิคการเลี้ยงสัตว์น้ำที่ใช้น้ำหมุนเวียน ซึ่งผ่านการบำบัดให้มีคุณภาพดีแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ กระบวนการนี้เหมาะสำหรับการเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่จำกัด (Land-Based Aquaculture) ภายใต้โดมความร้อน โดยการเลี้ยงในระบบนี้สามารถควบคุมคุณภาพน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้สามารถเลี้ยงปลาในปริมาณที่หนาแน่นได้สูงขึ้น โครงสร้างและระบบบำบัดน้ำของ RAS ประกอบด้วย: การเลี้ยงในระบบ RAS นี้สามารถลดการใช้น้ำได้อย่างมาก และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการของเสีย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความคุ้มค่าในการผลิต 2. การเลี้ยงสัตว์น้ำระบบไบโอฟลอค (Biofloc) ระบบไบโอฟลอค เป็นนวัตกรรมที่ใช้จุลินทรีย์มาช่วยบำบัดของเสียในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยจุลินทรีย์เหล่านี้จะย่อยสลายของเสียให้กลายเป็นสารอาหารที่สัตว์น้ำสามารถกินได้ ระบบนี้ช่วยลดการใช้ทรัพยากรและเพิ่มการใช้ประโยชน์จากของเสียในการเลี้ยงสัตว์น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลให้สัตว์น้ำมีสุขภาพดี และอัตราการรอดสูง…
-
แนวทางการผลิตปลาหมอไทยเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรม การเลี้ยงสัตว์น้ำอินทรีย์
in องค์ความรู้แนวทางการผลิตปลาหมอไทยเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำอินทรีย์ ปลาหมอไทย (Climbing Perch, Anabas testudineus) เป็นปลาน้ำจืดที่พบได้ทั่วไปในแหล่งน้ำทุกภาคของประเทศไทย นิยมบริโภคเพราะรสชาติดีและมีราคาสูง โดยตลาดมีความต้องการทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เช่น มาเลเซียและแถบตะวันออกกลาง ปลาหมอไทยเลี้ยงง่าย เจริญเติบโตเร็ว ทนทานต่อโรคและสภาพภูมิอากาศ ทำให้เหมาะสมกับการเพาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์แบบอินทรีย์ ในปัจจุบัน แนวโน้มผู้บริโภคให้ความสำคัญกับอาหารที่ปลอดภัยและปราศจากสารเคมี นักเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจึงต้องหาวิธีการเลี้ยงที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และเกษตรกรสามารถใช้ช่องทางนี้เพื่อสร้างรายได้ในวิถีการเลี้ยงแบบอินทรีย์ โดยปลาหมอไทยมีความทนทานสูง สามารถขนส่งและจำหน่ายในรูปแบบปลาสดมีชีวิตได้ การจัดการบ่อเลี้ยงและการปล่อยลูกปลา การเตรียมบ่อเลี้ยงปลาหมอควรเริ่มจากการกำจัดศัตรูปลา วัชพืช และพืชน้ำต่าง ๆ จากนั้นให้หว่านปูนขาว 150-200 กิโลกรัมต่อไร่ และตากบ่อให้แห้ง 2-3 สัปดาห์ เพื่อป้องกันโรคและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคระบาด เมื่อน้ำในบ่อพร้อม การปล่อยลูกปลา ควรเลือกปล่อยในช่วงเช้าหรือเย็น โดยใช้ลูกปลาขนาด 2-3 เซนติเมตร หรือที่เรียกว่า “ขนาดใบมะขาม” ซึ่งเป็นลูกปลาอายุ 25-30 วัน การให้อาหารและการพัฒนาสูตรอาหาร การให้อาหารปลาหมอไทยต้องสอดคล้องกับช่วงอายุของปลา ซึ่งปกติใช้เวลาประมาณ 90-120 วันในการเลี้ยงให้ได้ขนาดที่ตลาดต้องการ สูตรอาหารที่ใช้มีการวิจัยและพัฒนาเพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วนและลดต้นทุน โดยมีการใช้วัตถุดิบท้องถิ่น เช่น กล้วยน้ำว้าและถั่วเหลือง มาผสมในอาหารแทนการใช้ปลาป่นบางส่วน พบว่าการใช้กล้วยน้ำว้าช่วยเพิ่มศักยภาพในการเลี้ยง…