เทคโนโลยีการปลูกพืชในวัสดุปลูก

นิคม วงศ์นันตา

สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

การปลูกพืชในโรงเรือนระบบ Substrate: เทคโนโลยีการผลิตพืชคุณภาพสูง

การปลูกพืชในโรงเรือนโดยใช้วัสดุปลูก (Substrate culture) เป็นเทคโนโลยีการผลิตพืชแบบไม่ใช้ดินที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมและปัจจัยการผลิตได้ดี ทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง และสามารถผลิตได้ตลอดทั้งปี

ข้อดีของการปลูกพืชในระบบ Substrate มีหลายประการ เช่น:

– ลดปัญหาโรคที่มากับดิน
– ประหยัดการใช้น้ำและปุ๋ย
– ควบคุมคุณภาพผลผลิตได้ดี
– ผลผลิตสะอาด ปลอดภัย
– ผลิตได้ตลอดปี ไม่ขึ้นกับฤดูกาล
– ประหยัดแรงงานในการกำจัดวัชพืช

พืชที่นิยมปลูกในระบบนี้ ได้แก่ พริกหวาน มะเขือเทศ แตงกวา และแตงหอม โดยมีขั้นตอนการปลูกที่สำคัญดังนี้:

1. การเพาะกล้า – ใช้วัสดุเพาะกล้าปลอดเชื้อ เช่น พีทมอส หรือขุยมะพร้าวผสมเพอร์ไลท์
2. การเตรียมวัสดุปลูก – นิยมใช้กาบมะพร้าวสับบรรจุในถุงพลาสติกขนาด 8×13 นิ้ว
3. การปลูก – ย้ายกล้าลงถุงปลูกเมื่อมีใบจริง 2-4 ใบ ใช้ 1-2 ต้นต่อถุง
4. การให้ปุ๋ยและน้ำ – ให้สารละลายธาตุอาหารพร้อมน้ำผ่านระบบน้ำหยด ปรับค่า EC และ pH ให้เหมาะสมในแต่ละระยะการเจริญเติบโต
5. การดูแลรักษา – ตัดแต่งกิ่ง ผูกยอด กำจัดวัชพืช และป้องกันกำจัดศัตรูพืชตามความจำเป็น
6. การเก็บเกี่ยว – เก็บผลผลิตเมื่อได้ขนาดตามต้องการของตลาด

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จ ได้แก่ การเลือกใช้สายพันธุ์ที่เหมาะสม การควบคุมสภาพแวดล้อมในโรงเรือน การจัดการธาตุอาหารที่ถูกต้อง และการป้องกันกำจัดศัตรูพืชอย่างมีประสิทธิภาพ

การปลูกพืชในโรงเรือนระบบ Substrate จึงเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูงในการผลิตพืชผักคุณภาพพรีเมียม สำหรับตลาดเฉพาะที่ต้องการผลผลิตคุณภาพสูง ปลอดภัย และมีผลผลิตสม่ำเสมอตลอดปี แม้จะมีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าการปลูกแบบทั่วไป แต่ก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าได้หากมีการบริหารจัดการที่ดี

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://kb.mju.ac.th/assets/img/articleFile/25640601c753e15885f94a1487921dfe264d88b8.pdf

นิคม วงศ์นันตา สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

2564

เชียงใหม่