การผลิิตอะโวคาโดคุุณภาพ

นิคม วงศ์นันตา

สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ

อะโวคาโดเป็นไม้ผลยืนต้นที่มีศักยภาพในการผลิตเชิงการค้า เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเป็นที่ต้องการของตลาด การผลิตอะโวคาโดให้ได้คุณภาพดีนั้นมีปัจจัยสำคัญหลายประการ ดังนี้

1. การเลือกพันธุ์

ควรเลือกพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และความต้องการของตลาด พันธุ์อะโวคาโดที่นิยมปลูกเชิงการค้าในประเทศไทย ได้แก่
– พันธุ์ Hass: ผลรูปไข่ ผิวขรุขระ สีเขียวเข้มเมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้ม เนื้อสีเหลือง มีไขมันประมาณ 20%
– พันธุ์ Buccaneer: ผลค่อนข้างกลม ขนาดกลาง ผิวขรุขระสีเขียว เนื้อสีเหลืองอ่อน
– พันธุ์ Booth 7 และ Booth 8: ผลค่อนข้างกลม ขนาดกลาง ผิวขรุขระสีเขียว เนื้อสีเหลืองอ่อน
– พันธุ์ Peterson: ผลค่อนข้างกลม ขนาดเล็กถึงกลาง เนื้อสีเหลืองอมเขียว

2. การขยายพันธุ์

วิธีการขยายพันธุ์อะโวคาโดที่นิยมคือการเสียบยอด โดยใช้ต้นตอที่ได้จากการเพาะเมล็ด ขั้นตอนสำคัญมีดังนี้
– เตรียมต้นตอโดยการเพาะเมล็ดในถุงพลาสติกดำขนาด 9×14 นิ้ว
– เมื่อต้นตออายุ 4-6 เดือน ทำการเสียบยอดด้วยกิ่งพันธุ์ดี
– พันรอยแผลด้วยพลาสติกให้แน่น และดูแลรักษาความชื้น
– หลังเสียบยอด 30-40 วัน แกะพลาสติกออกและบำรุงต้นกล้าต่อไป

3. การปลูก

– เตรียมหลุมปลูกขนาด 80x80x80 ซม. ใส่ปุ๋ยคอกรองก้นหลุม
– ระยะปลูก 8-12 เมตร ขึ้นอยู่กับพันธุ์และความอุดมสมบูรณ์ของดิน
– ปลูกในช่วงต้นฤดูฝนหรือปลูกได้ตลอดปีถ้ามีน้ำเพียงพอ
– ควรปลูกพันธุ์ที่มีการบานของดอกต่างประเภทกันในพื้นที่เดียวกันเพื่อช่

 

วยการผสมเกสร

4. การดูแลรักษา

– การให้น้ำ: ให้น้ำสม่ำเสมอโดยเฉพาะช่วงแตกใบอ่อนและติดผล
– การใส่ปุ๋ย: ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ผสมยูเรีย อัตรา 200-500 กรัม/ต้น/ปี แบ่งใส่ 3-4 ครั้ง
– การตัดแต่งกิ่ง: ตัดกิ่งแห้ง กิ่งที่เบียดกัน กิ่งที่เป็นโรคออก เพื่อให้ทรงพุ่มโปร่ง
– การป้องกันกำจัดศัตรูพืช: พ่นสารเคมีป้องกันโรคและแมลงตามความจำเป็น

5. การเก็บเกี่ยว

– สังเกตความแก่ของผลจากการเปลี่ยนสีผิว การเปลี่ยนสีของเยื่อหุ้มเมล็ด และอายุผล
– เก็บเกี่ยวโดยใช้กรรไกรตัดให้มีขั้วติดกับผล
– ระยะเวลาเก็บเกี่ยวขึ้นอยู่กับพันธุ์ เช่น พันธุ์ Hass เก็บเกี่ยวประมาณ 242 วันหลังดอกบาน

6. การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว

– คัดแยกผลที่ไม่ได้คุณภาพออก
– บ่มผลให้สุกโดยวางไว้ที่อุณหภูมิห้องหรือใช้สารเร่งการสุก
– ผลจะสุกพร้อมรับประทานภายใน 3-7 วันหลังบ่ม

การผลิตอะโวคาโดให้ได้คุณภาพดีนั้น เกษตรกรต้องมีความรู้ความเข้าใจในการจัดการที่ถูกต้องตั้งแต่การเลือกพันธุ์ การขยายพันธุ์ การปลูก การดูแลรักษา ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวและการจัดการหลังการเก็บเกี่ยว ซึ่งจะช่วยให้ได้ผลผลิตอะโวคาโดที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://kb.mju.ac.th/assets/img/articleFile/256612145168d8ae2fbe4adf928ee3b809bf9b15.pdf

นิคม วงศ์นันตา สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

2566

ภาคเหนือ