การบริหารจัดการสุขภาพสัตว์น้ำจืด

ชนกันต์ จิตมนัส

คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ

การบริหารจัดการสุขภาพปลานิล

ปลานิลเป็นปลาน้ำจืดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของไทย โดยในปี 2565 มีผลผลิตประมาณ 246,192 ตัน และคาดว่าในปี 2566 จะมีผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 253,098 ตัน อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงปลานิลยังประสบปัญหาโรคระบาด ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลผลิตและรายได้ของเกษตรกร

สาเหตุของโรคปลานิลสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ โรคติดเชื้อและโรคไม่ติดเชื้อ:

1. โรคติดเชื้อ ได้แก่
– โรคจากปรสิต เช่น เห็บระฆัง อิ๊ก เอพิโอโซมา อิพิสไทลิส ปลิงใส เห็บปลา และหมัดปลา
– โรคจากแบคทีเรีย เช่น Aeromonas hydrophila, Flavobacterium columnare, Streptococcus spp. และ Piscirickettsia sp.
– โรคจากไวรัส เช่น Tilapia lake virus (TiLV), Betanodavirus
– โรคจากเชื้อรา เช่น Saprolegnia sp.

2. โรคไม่ติดเชื้อ ได้แก่
– โรคที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมไม่เหมาะสม เช่น ออกซิเจนในน้ำต่ำ อุณหภูมิน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
– โรคที่เกิดจากอาหารไม่เหมาะสม
– โรคที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม

การป้องกันและควบคุมโรคปลานิลที่สำคัญ ได้แก่:

1. การจัดการคุณภาพน้ำที่ดี ควบคุมปริมาณออกซิเจนละลายน้ำให้เหมาะสม
2. ไม่เลี้ยงปลาหนาแน่นเกินไป
3. คัดเลือกลูกพันธุ์ที่แข็งแรง ปลอดโรค
4. ให้อาหารที่มีคุณภาพและปริมาณเหมาะสม
5. เฝ้าระวังและตรวจสอบสุขภาพปลาอย่างสม่ำเสมอ
6. ใช้วัคซีนป้องกันโรคที่สำคัญ เช่น วัคซีนป้องกันโรคสเตรปโตค็อกโคซิส
7. ใช้สารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เช่น กระเจี๊ยบแดง ใบกระเม็ง
8. มีระบบการจัดการฟาร์มที่ดี บันทึกข้อมูลการเลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ
9. ปรึกษานักวิชาการประมงหรือสัตวแพทย์เมื่อพบปัญหา

การบริหารจัดการสุขภาพปลานิลที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคระบาด เพิ่มผลผลิต และสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมการเลี้ยงปลานิลของไทย เกษตรกรควรให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคมากกว่าการรักษา และพัฒนาระบบการเลี้ยงที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง เพื่อความสำเร็จในการเลี้ยงปลานิลอย่างยั่งยืน

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://kb.mju.ac.th/assets/img/articleFile/25661214de528146103140f1a2539aa9122225d8.pdf

ติดต่อและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : รองศาสตราจารย์ ดร.ชนกันต์ จิตมนัส สังกัด : คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ โทรศัพท์ : 053-875100-2

มหาวิทยาลัยแม่โจ้

2566

ไทย