คู่มือ สตรอว์เบอร์รี่

สตรอว์เบอร์รี (Fragaria spp.) เป็นพืชไม้ผลขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมทั่วโลก เนื่องจากมีลักษณะผลสวยงาม กลิ่นหอม รสชาติอร่อย และมีคุณค่าทางอาหารสูง นอกจากการบริโภคสดแล้ว สตรอว์เบอร์รียังถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมแปรรูป เช่น แยม ไอศกรีม โยเกิร์ต และเครื่องสำอาง ในประเทศไทย สตรอว์เบอร์รีกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร

แหล่งปลูกหลักในประเทศไทย

พื้นที่ปลูกสตรอว์เบอร์รีในไทยส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และบางพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น จังหวัดเลย และเพชรบูรณ์ รวมถึงบางพื้นที่สูงในภาคกลาง เช่น กาญจนบุรี

สตรอว์เบอร์รีเป็นพืชที่ต้องการอากาศเย็น โดยเฉพาะพื้นที่สูงที่มีอุณหภูมิระหว่าง 15-25 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นการออกดอกและเพิ่มคุณภาพของผลผลิต

สายพันธุ์สำคัญในประเทศไทย

พันธุ์ที่ปลูกในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้โครงการหลวง ได้แก่:

  • พันธุ์พระราชทาน 80 – นิยมปลูกมากที่สุด เนื่องจากมีรสหวานและผลขนาดใหญ่
  • พันธุ์ 329 (Yael) – นิยมปลูกเพื่อการแปรรูป
  • พันธุ์ Baron Solemacher – หรือที่เรียกว่าสตรอว์เบอร์รีดอย มีขนาดผลเล็กแต่มีกลิ่นหอมแรง และมีสารต้านมะเร็งสูง

ประโยชน์ทางโภชนาการและการแพทย์

สตรอว์เบอร์รีเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ประกอบไปด้วย:

  • วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  • โฟเลต ช่วยป้องกันความผิดปกติของทารกในครรภ์
  • สารต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและมะเร็ง
  • ไฟเบอร์สูง ช่วยในระบบขับถ่ายและย่อยอาหาร

ในทางยา สตรอว์เบอร์รีมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยขับปัสสาวะ บรรเทาอาการปวดข้อรูมาติก และช่วยให้ผิวพรรณกระจ่างใส

การปลูกและดูแลรักษา

การปลูกสตรอว์เบอร์รีต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายประการ ได้แก่:

  1. การเลือกพื้นที่ปลูก – ควรอยู่ในพื้นที่สูง มีดินร่วนซุย และค่า pH 6-7
  2. การให้น้ำ – ต้องให้ความชื้นที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป
  3. การดูแลโรคและแมลงศัตรูพืช – เช่น ไรสองจุด เพลี้ย และโรคเชื้อรา
  4. การเก็บเกี่ยว – ควรเก็บเกี่ยวเมื่อผลสุกประมาณ 75-80% เพื่อคงคุณภาพและรสชาติที่ดี

ความสำคัญทางเศรษฐกิจและการตลาด

ในปัจจุบัน สตรอว์เบอร์รีกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญในประเทศไทย โดยมีการปลูกเพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการทั้งในและต่างประเทศ

  • ตลาดในประเทศ: มีการจำหน่ายทั้งในรูปแบบผลสดและผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น แยม ไวน์ และขนมหวาน
  • ตลาดต่างประเทศ: ประเทศไทยส่งออกสตรอว์เบอร์รีไปยังตลาดต่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60% ของผลผลิตทั้งหมด ซึ่งสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 120 ล้านบาทต่อปี

สตรอว์เบอร์รีเป็นพืชที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงในประเทศไทย โดยเฉพาะในเขตภาคเหนือที่มีสภาพอากาศเอื้อต่อการเจริญเติบโต การพัฒนาสายพันธุ์และเทคนิคการปลูกที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มคุณภาพและปริมาณผลผลิต สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในพื้นที่ชนบท


ผู้รับผิดชอบ: นิคม วงศ์นันตา
หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมทางการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

แหล่งอ้างอิง : https://kb.mju.ac.th/article.aspx?id=4147

เอกสารฉบับเต็ม : https://maejo.link/JIS5