เสี้ยวหนึ่งของชีวิตในแม่โจ้

by

|

in
Archives-Logo-2021-black-3500x1000

Maejo University Oral History

เรื่องราวเหตุการณ์ ประสบการณ์ คำบอกเล่า จากศิษย์เก่าแม่โจ้ เพื่อการเติมเต็มประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้่

          เมื่อทุกคนเข้ามาครั้งแรก จะมีข่าวที่ออกไปให้เกรงกลัวว่าการต้อนรับน้องใหม่นี่ต้องระวังตัวให้ดีเพราะว่าประเพณีที่นี่เข้มข้นมากเลย ฉะนั้นทุกคนมาแม่โจ้ จะต้องระวังเนื้อระวังตัว ต้องไม่ทำอะไรให้ผิดพลาดให้เป็นที่หมั่นไส้ของพี่ปีสองครับ! เข้ามาอยู่หอเดือนพฤษภาคม ทุกคนต้องอยู่หอหมดพวกพี่ ๆ ก็จะเดินขึ้นเดินลงไป ชื่ออะไร มาจากไหน ก็ดูไปอย่างนี้ เราก็พูดจากับเขา คุยกันไปคุยกันมาจนกระทั่ง คืนวันที่6 ประเพณีจะเข้มข้นเขาจะเอา มีวิธีไปปล้นหอ ที่เขาไปสัมภาษณ์เรา จำไว้เลย เขาจดไว้เลยว่า ไอ้คนนั้นเป็นยังไง นิสัยเป็นยังไง เขาเอาลงมาแล้วพวกเราก็มาคลานกัน ช่วงที่ผมเจอรุ่นพี่มาเลย

          “เฮ้ย! ไอ้ย้อยอยู่ไหนวะ” อะไรอย่างนี้ เขาขู่ ขู่แล้วก็มีเอาก้านกล้วยตีบ้าง เขาไม่ได้ทารุณหรอกครับแต่ว่าทำให้มันเคยพองขน เบ่งกล้ามให้ยุบๆ ลงเสียบ้าง พอมาถึงที่นี่แล้ว ไม่ใช่จะไปเหมือนเป็นนักเลงเกะกะเกเรอยู่ตามต่างจังหวัดที่เคยเป็น เราอยู่ตามระเบียบวินัย ถามว่าตอนนั้นโกรธไหมโกรธมาก เพราะอย่างบางคนนี่เขาไม่ค่อยโกรธ ผมไม่เคยยอมใครไงสมัยที่ผมเป็นเด็ก พอมาอยู่ที่นี่ผมโกรธมาก อาฆาตไว้ในใจเลยว่า เดี๋ยวเถอะ มีคนหนึ่งชื่อสุวิทย์ แสงมณี ตอนหลังไปเป็นผอ.โรงเรียนอ่างทอง แกดุกับพวกเรา พวกเราก็เรียกกันว่า “องคุลีมาร” พอเห็นแกมาเราก็หลบเลย “เฮ้ย! องคุลีมารมา” ผมนี่โทษมหันต์ได้ลงสระเกษตร พอตอนกลางคืน เขาก็เรียกไปพิพากษา กี่แรงถีบแรงเท้านับเอา เรื่องวิ่งรอบสระนี่เขาไม่กลัวกันนะ แต่ละรอบไม่กลัว กลัวไม่ถึงรอบ แรงถีบเดียวขึ้นไปเลย ผมและเพื่อนร่วมรุ่นหลายคน เขาเรียกขึ้นมา “ไอ้ย้อยขึ้นมานี่ ขึ้นไปยืนหัวกระดาน” ผู้พิพากษาก็บอกโทษว่า “พูดวาจาสามหาว ไม่เกรงกลัวผู้ใด วางตัวเป็นนักเลง โทษมหันต์นัก 4 แรงถืบ”จากนั้นพวกเพชฌฆาตซึ่งยืนตรงข้าง ๆ 4 คน ๆ ละตีนถีบลงมา จุกเลยล่ะ แต่ถามว่าโกรธไหมโกรธ ๆ ตอนตกน้ำลงมาก็โกรธ แต่พอขึ้นมาตอนเช้าอาบน้ำอาบท่าแล้วไปเข้าแถวเดินไปลอดซุ้มธงเขียวขาวเหลืองมีพวกรุ่นพี่ ๆ ที่เขาทำกับเราก็เข้ามาตบไหล่

            “เฮ้ย! นี่น้องพี่รุนแรงไปเมื่อคืน ขอโทษนะ เราเป็นพี่น้องกัน โกรธพี่ไหม ถ้าโกรธเอาเลยพี่จะแอ่นก้นให้เตะ” ใครมั่งที่จะทำ เลยตอบไป “พี่ผมไม่โกรธหรอกครับ”

          รู้ไหมว่าทุกคนพอผ่านตรงนี้มาพูดแล้วยังขนลุกเลย ไม่โกรธ ความโกรธความแค้นหายไปจากตรงนั้นหมด คราวนี้ก็เหลือแต่ความรักความสามัคคี แล้วพวกพี่ ๆ พอหลังจากต้อนรับน้องใหม่เสร็จแล้ว อะไรแล้วนี่ เขาไม่เคยมาข่มเหงรังแกอะไรเลย มีแต่ครั้งแรกๆ ที่เขาขู่ ๆ พ่อ ๆ เลยแหมจะเอาเป็นเอาตายเลย แต่พอหลังจากนั้นแล้ว นี่คือน้องแม่โจ้เรา ให้เกียรติ รักเรา มีอะไร แล้วแม่โจ้สมัยที่ผมอยู่นะ โกรธกันแทบเป็นแทบตาย จะมาต่อยกันที่หอ จะมาต่อยกันที่ไหนก็ช่างเหอะโอ้โฮ! โทษรุนแรง ทุนรุนแรง ต้องแห่ไปลงน้ำ ตีสอง อย่างน้อยก็คนละ 4 แรงถีบ ถูกตีอีกต่างหากฉะนั้นพวกเราจะไม่มีทะเลาะกันเลย ถ้าโกรธกันจริง ๆ นะแต่ก่อนเวทีมันอยู่ไอ้ตรงที่หอประชุมเก่าหอประชุมชูติวัตร ไปเลยเวทีชกกัน ชกแล้วเลิกกันไป ผมไม่เห็นมีใครโกรธกันถาวรนี่ แล้วครูบาอาจารย์ก็ไม่เอาโทษด้วย

          แต่ถ้าต่อยกันลำพังนะ คะแนนความประพฤติถูกตัดครับ! พวกเราจะไม่มีก่อการวิวาททะเลาะกันไปด่าพ่อล่อแม่กันไม่มีจริงๆ สมัยผมอยู่นะครับเรื่องประเพณีนี่ สมมุติว่าปีใหม่งานฤดูหนาว! ใครมีสตางค์หน่อยงานฤดูหนาวก็ไปเที่ยวกัน แต่พวกเรานี่รอเงินธนาณัติจากทางบ้านมายังไม่ได้ไปไหน คืนวันที่ 31 สามทุ่ม พวกเราก็ไปกันแล้วครับไปบ้านอาจารย์ร้องเพลง “ยิ้มเถิด ยิ้มเถิดนะยิ้ม ยิ้มแย้มแจ่มใส วันนี้เป็นวันปีใหม่ ขอให้สวัสดี” เขาก็จะมีขนม เขาไม่ได้ให้เหล้านะ มีขนมเทียนมีขนมอะไรก็ไม่รู้ให้มา ตั้งเยอะ เราก็เอาตะพายมาเดินไปบ้านอาจารย์แต่ละบ้านจนทั่ว เอาไปกินที่หอกันครับ ไม่มีตังค์ไปแอ่วในเวียงเนี่ย! ผมก็เสียดายนะประเพณีอย่างสมัยก่อนนะ แล้วก็ที่บ้านพักครูบาอาจารย์เนี่ยเขารู้เลยว่าวันที่ 31 นี่เขาจะมีการทำขนมจ็อก (ขนมเทียน) ขนมอะไรเตรียมไว้สำหรับพวกนักเรียน ที่จะมาอวยพร เขามีมาก่อนแล้ว ผมว่าตั้งแต่รุ่น 7 รุ่น 8 แล้วละ หอพักผมมันมีอยู่ไม่กี่หลังนี่อาจารย์แม่โจ้สมัยก่อนมีอยู่ 11 อาจารย์ ถ้าเกิดรุ่นไหนผมก็จำไม่ได้เหมือนกันเพราะผมไม่รู้เหมือนกันไม่รู้ก็ร้องต่อเนื่องกันมา ครับ! สืบทอดกันมา ตอนเข้ามาวันที่ 17 พฤษภาก็ยังไม่มีอะไรครับ มีแต่ทำงานทั้งวัน เช้ามากินข้าวโรงครัว ลงงาน จอบคนละอัน บ่ายโมงลงงาน อยู่จนกระทั่งถึง วันที่ 6 มิถุนา ตลอดมาเลยยังไม่ได้เรียนเลยครับมีแต่เรื่องกิจกรรมสนุกดี เล่าไม่รู้เบื่อ

ผู้ให้ข้อมูล: ทองย้อย บัวศรี รุ่น 25
ที่มา: หนังสือบันทึกแม่โจ้ ความคิด ชีวิต ตำนาน

เมื่อทุกคนเข้ามาครั้งแรก จะมีข่าวที่ออกไปให้เกรงกลัวว่าการต้อนรับน้องใหม่นี่ต้องระวังตัวให้ดีเพราะว่าประเพณีที่นี่เข้มข้นมากเลย ฉะนั้นทุกคนมาแม่โจ้ จะต้องระวังเนื้อระวังตัว ต้องไม่ทำอะไรให้ผิดพลาดให้เป็นที่หมั่นไส้ของพี่ปีสองครับ!

เชิญชวนศิษย์เก่าแม่โจ้ ร่วมเติมเต็มประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยการบอกเล่าประสบการณ์จากอดีตที่ผ่านมาของท่านในแม่โจ้

สามารถติดต่อเพื่อให้ข้อมูลได้ที่ ฝ่ายจดหมายเหตุและคอลเล็กชั่นพิเศษ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อาคารวิภาต บุญศรี วังซ้าย

โทร. 0 5387 3508

หรือสามารถติดต่อได้ที่ Facebook: จดหมายเหตุมหาวิทยาลัยแม่โจ้