กระเทียม (Allium sativum) เป็นพืชสมุนไพรที่อยู่ในวงศ์ Alliaceae มีบทบาทสำคัญทั้งในครัวเรือนและในทางการแพทย์แผนไทยและแผนปัจจุบัน กระเทียมไม่เพียงแต่เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารเท่านั้น แต่ยังมีสรรพคุณทางยาที่ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนาน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
กระเทียมเป็นพืชล้มลุก มีหัวใต้ดินที่ประกอบด้วยกลีบเล็ก ๆ หลายกลีบเรียงตัวกันเปลือกหุ้มสีขาวหรือม่วงอ่อน ใบมีลักษณะแบนเรียวยาว ดอกเป็นช่อสีขาวหรือม่วงแกมเขียว
แหล่งกำเนิดและการเพาะปลูก
กระเทียมมีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียกลางและแถบเมดิเตอร์เรเนียน และแพร่กระจายไปทั่วโลก ประเทศไทยมีการปลูกกระเทียมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน
คุณค่าทางโภชนาการ
กระเทียมอุดมไปด้วยสารอาหารและสารออกฤทธิ์ที่มีประโยชน์ ได้แก่:
- อัลลิซิน (Allicin): สารสำคัญที่ให้กลิ่นและรสชาติ เผ็ดร้อน มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส
- วิตามินซี: ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- ซีลีเนียม: ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
สรรพคุณทางยา
- ลดไขมันในเลือด: สารอัลลิซินช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
- บำรุงหัวใจ: ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
- เสริมภูมิคุ้มกัน: ช่วยป้องกันหวัดและการติดเชื้อ
- ต้านมะเร็ง: สารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดเซลล์มะเร็ง
- แก้ท้องอืดและขับลม: กระเทียมมีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร
การใช้ในชีวิตประจำวัน
- ปรุงอาหาร: กระเทียมสดหรือกระเทียมเจียวใช้ในเมนูไทย เช่น ผัดกระเทียมพริกไทย และแกง
- สมุนไพรพื้นบ้าน: กระเทียมสดตำผสมกับน้ำมะนาวใช้พอกบรรเทาอาการอักเสบ
- ผลิตภัณฑ์แปรรูป: เช่น น้ำมันกระเทียม กระเทียมผง หรือแคปซูลกระเทียม
คำแนะนำและข้อควรระวัง
- บริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ: การรับประทานกระเทียมสดในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อนในกระเพาะอาหาร
- ระวังการแพ้: ผู้ที่แพ้กระเทียมอาจมีอาการผื่นคันหรือระคายเคือง
- ไม่ควรรับประทานกระเทียมร่วมกับยา: เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดออก
แหล่งข้อมูล : สถานการแพทย์แผนไทยประยุกต์