ผักโขม (Amaranthus spp.) เป็นพืชผักพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมในการบริโภคทั้งในรูปแบบอาหารและสมุนไพร ด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง ผักโขมถูกนำมาใช้ในอาหารไทยหลายชนิด เช่น แกงจืด ผัดน้ำมันหอย และซุปผัก นอกจากนี้ ยังมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยบำรุงร่างกายและป้องกันโรคต่าง ๆ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ผักโขมเป็นพืชล้มลุกในวงศ์ Amaranthaceae มีลักษณะเด่นดังนี้:
- ใบมีลักษณะรูปไข่หรือรูปหอก สีเขียวเข้มหรือสีแดงขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
- ลำต้นเป็นทรงพุ่ม มีความสูงประมาณ 30-100 ซม.
- ดอกออกเป็นช่อกระจุกแน่น สีเขียวอมแดง
- เมล็ดมีขนาดเล็ก สีดำหรือสีน้ำตาล มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
แหล่งกำเนิดและการเพาะปลูก
ผักโขมมีถิ่นกำเนิดในแถบทวีปเอเชีย แอฟริกา และอเมริกาใต้ สามารถปลูกได้ดีในเขตร้อนชื้น และเติบโตได้ง่ายในดินร่วนซุย ประเทศไทยมีการปลูกผักโขมเพื่อใช้บริโภคทั้งในครัวเรือนและเพื่อการค้า
คุณค่าทางโภชนาการ
ผักโขมเป็นแหล่งของสารอาหารสำคัญ ได้แก่:
- ธาตุเหล็กสูง: ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจาง
- แคลเซียมและฟอสฟอรัส: เสริมสร้างกระดูกและฟัน
- วิตามินเอและวิตามินซี: ช่วยบำรุงสายตาและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- เส้นใยอาหารสูง: ส่งเสริมการทำงานของระบบขับถ่าย
สรรพคุณทางยา
- บำรุงเลือด: ธาตุเหล็กในผักโขมช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง
- ช่วยลดความดันโลหิต: สารอาหารในผักโขมช่วยขยายหลอดเลือดและลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
- เสริมสร้างกระดูก: แคลเซียมในผักโขมช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน
- ต้านอนุมูลอิสระ: สารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย
การใช้ในชีวิตประจำวัน
- ปรุงอาหาร: นิยมใช้ในแกงจืด ผัดน้ำมันหอย และต้มจืด
- สมุนไพรพื้นบ้าน: น้ำต้มใบผักโขมใช้ดื่มเพื่อบำรุงร่างกาย
- ผลิตภัณฑ์จากผักโขม: เช่น ผงผักโขม แคปซูลสารสกัดผักโขม และเครื่องสำอางบำรุงผิว
อ้างอิง
เทคโนโลยีชาวบ้าน. “ผักโขม: ผักพื้นบ้านที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง.” สืบค้นเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2567.
https://www.technologychaoban.com/bullet-news-today/article_204298