Sansai Discovery

ภูมิปัญญาแห่งลายเส้น: ธีร์ธวัช แก้วอุด กับศิลปะการตอกลายหลูบเงิน

ในโลกของงานหัตถศิลป์ไทย มีศิลปินหลายท่านที่ทุ่มเทชีวิตเพื่อสืบสานและต่อยอดมรดกทางวัฒนธรรม หนึ่งในนั้นคือ คุณธีร์ธวัช แก้วอุด ช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญด้านการตอกลายหลูบเงิน ศิลปะการตกแต่งอาวุธโบราณที่กำลังจะเลือนหายไปตามกาลเวลา

จุดเริ่มต้นของความหลงใหล

ธีร์ธวัช เริ่มต้นเส้นทางในวงการศิลปะการช่างด้วยความสนใจในการตีมีด แม้จะถูกปฏิเสธจากช่างในหมู่บ้าน แต่ด้วยความมุ่งมั่น เขาได้เดินทางไปเรียนรู้วิชาจากช่างในจังหวัดน่าน ใช้เวลากว่าสองปีในการฝึกฝนทักษะการตีมีด ขึ้นทรง และชุบมีด

ความสนใจในดนตรีพื้นบ้านนำพาเขาเข้าสู่รั้ววิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ ที่นี่เองที่เขาได้พบกับรุ่นพี่ผู้เชี่ยวชาญด้านดาบโบราณและงานเครื่องเงิน จุดนี้เองที่จุดประกายให้เขาหันมาสนใจงานศาสตราภรณ์อย่างจริงจัง

จุดเริ่มต้นของความหลงใหล

ธีร์ธวัช เริ่มต้นเส้นทางในวงการศิลปะการช่างด้วยความสนใจในการตีมีด แม้จะถูกปฏิเสธจากช่างในหมู่บ้าน แต่ด้วยความมุ่งมั่น เขาได้เดินทางไปเรียนรู้วิชาจากช่างในจังหวัดน่าน ใช้เวลากว่าสองปีในการฝึกฝนทักษะการตีมีด ขึ้นทรง และชุบมีด

ความสนใจในดนตรีพื้นบ้านนำพาเขาเข้าสู่รั้ววิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ ที่นี่เองที่เขาได้พบกับรุ่นพี่ผู้เชี่ยวชาญด้านดาบโบราณและงานเครื่องเงิน จุดนี้เองที่จุดประกายให้เขาหันมาสนใจงานศาสตราภรณ์อย่างจริงจัง

ศาสตร์และศิลป์แห่งการตอกลายหลูบเงิน

การตอกลายหลูบเงิน หรือที่รู้จักในชื่อ “ศาสตราภรณ์” คือศิลปะการตกแต่งอาวุธด้วยโลหะมีค่า เช่น ทองคำ เงิน นาค ทองแดง และทองเหลือง ธีร์ธวัชได้แบ่งลวดลายของดาบที่หลูบออกเป็น 2 ประเภทหลัก:

1. งานเกลี้ยงเดินไหม : เป็นการหลูบเงินเกลี้ยง เน้นเส้นลวดลายขดเชื่อมลงบนดามดาบและฝักดาบ นิยมในกลุ่มชาติพันธุ์ไตลื้อ ไตใหญ่ และพม่า
2. งานสลักดุนต้องลาย : แบ่งออกเป็นสองยุค
– ยุคแรก: ประกอบด้วยลายหลวงพระบาง ลายนาค ลายโขง ลายเครือลาว ลายเมฆดั้น ลายหน้าสิงห์ขบ และลายกาบบัวลาว
– ยุคปลาย: เป็นการผสมผสานระหว่างลายไทยกับลายพื้นเมืองล้านนา

ความละเอียดอ่อนของลวดลายเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความชำนาญและความอดทนของช่างฝีมือ ที่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสร้างสรรค์ผลงานแต่ละชิ้น

การเผยแพร่และสืบสานภูมิปัญญา

ด้วยความตระหนักถึงคุณค่าของศิลปะโบราณชิ้นนี้ ธีร์ธวัชได้อุทิศตนในการเผยแพร่ความรู้สู่สาธารณชน ผ่านการเป็นวิทยากรบรรยายและสาธิตในงานต่างๆ เช่น:

– การสาธิตการหลูบเงินแบบโบราณ ณ โฮงเฮียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนา
– งานจิตวิญญาณแห่งศาสตรา นครลำปาง ที่วัดปงสนุก
– งานพินิจศาสตรา ปลุกมนตราแห่งลายเจิง ที่เวียงปินดาว เชียงดาว

การถ่ายทอดความรู้เหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยอนุรักษ์ภูมิปัญญาดั้งเดิม แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจศิลปะแขนงนี้มากขึ้น

ผลงานที่ภาคภูมิใจ

ตลอดระยะเวลาการทำงาน ธีร์ธวัชได้สร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่นมากมาย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญระดับสูง เช่น:

– ดาบโบราณหลูบทองคำ น้ำหนัก 25 บาท ด้วยลวดลายสกุลช่างหลวงพระบาง
– กุบละแอ (หมวกทรงยอดแหลม) โบราณล้านนา ทำจากเงินดุนลายทั้งใบ น้ำหนัก 1 กิโลกรัม
– ดาบลาวที่มีด้ามทองคำ น้ำหนัก 9 บาท ด้วยลวดลายสกุลช่างจำปาสัก

นอกจากนี้ เขายังได้รับการยกย่องให้เป็นทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ประเภทโลหะ (หลูบเงิน) จากศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถและการอุทิศตนในการสืบสานภูมิปัญญาไทย

บทส่งท้าย

ธีร์ธวัช แก้วอุด เป็นตัวอย่างของศิลปินร่วมสมัยที่สามารถผสมผสานความรู้ดั้งเดิมเข้ากับความคิดสร้างสรรค์สมัยใหม่ได้อย่างลงตัว การทำงานของเขาไม่เพียงแต่รักษามรดกทางวัฒนธรรมไว้ แต่ยังพัฒนาต่อยอดให้ศิลปะการตอกลายหลูบเงินยังคงมีชีวิตชีวาในยุคปัจจุบัน

ในโลกที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การดำรงอยู่ของศิลปะแขนงนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้เราตระหนักถึงคุณค่าของภูมิปัญญาบรรพบุรุษ และความสำคัญของการสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมให้คงอยู่คู่สังคมไทยต่อไป

แหล่งที่มา :

โครงการสำรวจข้อมูลปราชญ์ท้องถิ่นล้านนา โดย นายวุฒิภัทร เกตุพัฒนพล ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยแม่โจ้