Tag: ปราชญ์อำเภอสันทราย
-
การสืบสานศิลปะการขับซอพื้นบ้านล้านนาผ่านภูมิปัญญาของนางนงค์นุช ชัยระวัง
ในยุคที่วัฒนธรรมสมัยใหม่กำลังครอบงำสังคมไทย การอนุรักษ์และสืบสานศิลปะพื้นบ้านกลายเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ หนึ่งในศิลปะการแสดงที่ทรงคุณค่าของภาคเหนือคือ “การขับซอ” ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงภูมิปัญญา วิถีชีวิต และจิตวิญญาณของชาวล้านนา ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลง ยังมีศิลปินพื้นบ้านที่ทุ่มเทชีวิตเพื่อรักษาศิลปะแขนงนี้ให้คงอยู่ หนึ่งในนั้นคือ นางนงค์นุช ชัยระวัง หรือที่รู้จักกันในนามศิลปิน “วันเพ็ญ จางซอ” ผู้สืบทอดและเผยแพร่การขับซอพื้นบ้านล้านนามาอย่างยาวนาน จากรากเหง้าสู่การเป็นศิลปินขับซอ นางนงค์นุช เกิดที่บ้านหนองไคร์หลวง ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยพรสวรรค์และใจรักในศิลปะการขับซอ เธอได้ฝึกฝนและพัฒนาทักษะจนกลายเป็นศิลปินที่มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี ความสามารถ ของเธอไม่เพียงแต่การขับซอเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการประพันธ์บทซอในหลากหลายทำนองอีกด้วย ความหลากหลายของการขับซอ การขับซอของนางนงค์นุช ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงรูปแบบดั้งเดิม แต่ยังประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัย เธอสามารถขับซอได้หลากหลายทำนอง เช่น ทำนองตั้งเชียงใหม่ จะปุ ละมาย เงี้ยว อื่อ ลองนาน พระลอ ซอปั่นฝ้าย และตั้งเชียงแสน นอกจากนี้ เธอยังได้สร้างสรรค์ “ซอสตริง” หรือ “ซอประยุกต์” ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างซอพื้นบ้านกับดนตรีสมัยใหม่ เพื่อดึงดูดความสนใจของคนรุ่นใหม่ บทบาทในการอนุรักษ์และเผยแพร่ นางนงค์นุชไม่เพียงแต่เป็นศิลปินเท่านั้น แต่ยังเป็นครูภูมิปัญญาที่ทุ่มเทในการถ่ายทอดความรู้สู่เยาวชนรุ่นหลัง เธอได้รับเชิญให้สอนการขับซอในโรงเรียนหลายแห่ง…
-
พ่อครูนิกร อินต๊ะ : ตำนานการขับซอล้านนา
ในโลกของดนตรีพื้นบ้านล้านนา มีชื่อหนึ่งที่โดดเด่นและเป็นที่เคารพนับถือมายาวนาน นั่นคือ “พ่อครูนิกร อินต๊ะ” หรือที่มีชื่อจริงว่า นายนิกร อินตะ ศิลปินผู้สืบสานและรักษาศิลปะการขับซอให้คงอยู่คู่แผ่นดินล้านนามาอย่างยาวนาน จุดเริ่มต้นของตำนาน เส้นทางการเป็นช่างซอของพ่อครูนิกรเริ่มต้นขึ้นเมื่อท่านอายุเพียง 15 ปี ด้วยความสนใจและพรสวรรค์ ท่านได้เข้าศึกษาวิชาการขับซอกับ “พ่อครูคำปวน หนองกุ้นครุ” ผู้เป็นครูคนแรก นับเป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวเข้าสู่วงการขับซอล้านนาอย่างเต็มตัว การเดินทางสู่ความเชี่ยวชาญ เมื่ออายุ 21 ปี พ่อครูนิกรได้มีโอกาสร่วมงานกับวง ก. ประเสริฐศิลป์ ของแม่มุกดา บ้านแม่หอพระ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาทักษะและประสบการณ์ ต่อมาท่านได้ย้ายไปร่วมงานกับคณะลูกแม่ปิงของแม่บัวตอง เมืองป่าว และคณะสายธาราของแม่จันทร์สม สายธารา ซึ่งเป็นคณะซอที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น การได้ร่วมงานกับคณะซอชื่อดังหลายคณะ ทำให้พ่อครูนิกรได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะการขับซอของตนเองอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นช่างซอที่มีความสามารถรอบด้าน ทั้งการขับซอและการแสดงละครซอ ความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย พ่อครูนิกรไม่เพียงแต่เป็นช่างซอเท่านั้น แต่ท่านยังมีความสามารถในการแสดงละครซอ โดยรับบทบาทที่หลากหลาย ทั้งพ่อของพระเอกนางเอก ตัวโกง และตัวตลก แสดงให้เห็นถึงความสามารถอันหลากหลายของท่าน นอกจากนี้ ท่านยังได้มีโอกาสแสดงละครซอออกรายการโทรทัศน์ทางช่อง 8 จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นการนำศิลปะการขับซอไปเผยแพร่ในวงกว้าง การสืบสานและอนุรักษ์ ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีในวงการขับซอ…
-
ชีวิตและผลงานของพ่อครูบุญศรี รัตนัง ศิลปินแห่งชาติ
ในอ้อมกอดของขุนเขาแห่งล้านนา มีเสียงดนตรีที่แทรกซึมอยู่ในสายลมและสายน้ำ เสียงที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้คน วิถีชีวิต และจิตวิญญาณแห่งดินแดนทางเหนือ เสียงนั้นคือเสียงซอ และหนึ่งในผู้ที่ทำให้เสียงซอยังคงก้องกังวานมาจนถึงปัจจุบันคือ พ่อครูบุญศรี รัตนัง ศิลปินแห่งชาติผู้ได้รับการขนานนามว่า “ขุนพลซอแห่งล้านนา” จากเด็กชายสู่ศิลปิน: จุดเริ่มต้นของเส้นทางดนตรี ณ บ้านหนองเตาคำ ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เด็กชายบุญศรี รัตนัง เติบโตขึ้นท่ามกลางเสียงเพลงและดนตรีพื้นบ้าน แม้จะเรียนจบเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนบ้านป่าเหมือดวิทยาคาร แต่ความรักในการอ่าน การเขียน และการศึกษาค้นคว้าได้หล่อหลอมให้เขากลายเป็นปราชญ์แห่งดนตรีล้านนาในเวลาต่อมา ชีวิตในวัยเยาว์ของบุญศรีไม่ต่างจากเด็กชนบททั่วไป เขาต้องช่วยครอบครัวทำมาหากิน ทั้งเผาถ่าน เลื่อยไม้ เก็บเห็ด และหาของป่าไปขาย แต่ภายใต้ภาระหน้าที่เหล่านั้น เสียงเพลงและดนตรียังคงเป็นความฝันที่เขาไม่เคยละทิ้ง จุดเปลี่ยนสำคัญมาถึงในปี 2514 เมื่อบุญศรีตัดสินใจเริ่มเรียนการเป่าปี่ แต่ด้วยความที่การเป็นช่างเป่าปี่ได้รับค่าตอบแทนน้อยกว่าช่างขับซอ เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนมาเรียนการขับซอกับพ่อครูจันทร์ตา ต้นเงิน แห่งบ้านป่าแงะ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ก้าวแรกบนเส้นทางสายดนตรี: จากคนรอบผ้ากั้นสู่นักแสดงตลก การเริ่มต้นอาชีพในวงการดนตรีของบุญศรีนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาเริ่มจากการเป็นคนรอบผ้ากั้นคนดูให้กับวงดนตรีอำนวย กล่ำพัด โดยได้รับค่าแรงเพียงคืนละ 25 บาท ต่อมาเขาได้เลื่อนขั้นเป็นโฆษกประชาสัมพันธ์ให้กับวง ได้ค่าแรงเพิ่มขึ้นเป็น…
-
นายสงัด ชัยวรรณา ภูมิปัญญาด้านการแกะสลักไม้
นายสงัด ชัยวรรณา อาศัยอยู่ที่บ้านสันต้นเปา ตำบลสันป่าเปา อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ แกะสลักไม้รูปเหมือน เช่น รูปเหมือนกินรี ตัวละครในวรรณคดี สัตว์ป่าหิมพานต์ ฯลฯ นอกจากจะมีความสามารถแกะสลักรูปเหมือนได้แล้วยังสามารถวาดรูปได้อีกด้วย การรับงานแกะสลักไม้จะมีลูกค้าจากบ้าน 100 อัน 1000 อย่าง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ มาจ้างให้แกะสลัก ตามแบบที่ลูกค้าต้องการโดยลูกค้าจะนำไม้และแบบมาให้ คิดราคาค่าจ้างแกะสลักตามขนาดของชิ้นงานและความละเอียดเป็นหลัก ผลงานการแกะสลักของนายสงัด ชัยวรรณา เครื่องมือและอุปกรณ์ในการแกะสลักไม้ วิธีการแกะสลักไม้ -ใช้สิ่วขนาดต่างๆ และค้อนตอกลงในท่อนไม้ให้ให้ตามรูปแบบอย่างประณีตหลังจากนั้นใช้กระดาษทรายขัดรูปทรงต่างๆ ให้เรียบ แหล่งที่มา : โครงการสำรวจข้อมูลปราชญ์ท้องถิ่นล้านนา ปี 2562 โดย นายวุฒิภัทร เกตุพัฒนพล ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยแม่โจ้
-
พระครูโกวิทธรรมโสภณ ภูมิปัญญาด้านการจัดการพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น
พระครูโกวิทธรรมโสภณ ชื่อเดิม ศรีผ่อง ฉายา โกวิโท นามสกุล บุญเป็ง อาศัยอยู่ที่ตำบลหนองแหย่ง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ พระครูโกวิทธรรมโสภณ เป็นผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์วัดร้องเม็งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2527 วัตถุโบราณชิ้นแรกที่ได้มา คือแม่พิมพ์ปั้นอิฐรูปโค้ง ทำจากไม้สัก ต่อมาจึงได้เริ่มเก็บสะสมโบราณวัตถุ – ศิลปวัตถุชนิดต่างๆ และมีผู้มาบริจาคเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีวัตถุที่จัดแสดงมีมากกว่า 7,000 ชิ้น อาคารที่ใช้จัดแสดงของพิพิธภัณฑ์มีทั้งหมด 2 หลัง ได้แบ่งการจัดแสดงไว้ดังนี้ อาคารพิพิธภัณฑ์หลังที่ 1 เป็นอาคารชั้นเดียว ใช้จัดแสดงวัตถุโบราณต่างๆ ที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก เช่น อาวุธโบราณ หีบธรรม เครื่องครัวโบราณ มีดหมอแหกพิษทำจากเขาควายที่ถูกฟ้าผ่าตาย วิทยุโบราณ ที่หนีบอ้อย ที่กรองน้ำโบราณ เอกสารพับสาใบลานต่างๆ ขันโบราณ เครื่องประดับ อาคารพิพิธภัณฑ์หลังที่ 2 เป็นอาคารชั้นเดียว ใช้จัดแสดงวัตถุที่ทาจากไม้แกะสลักและชิ้นส่วนสถาปัตยกรรม เช่น จองพารา ที่ประดิษฐานพระพุทธรูป หีบธรรม ตู้ธรรม…
-
นายเกษม คามี ภูมิปัญญาปราชญ์ล้านนาการสานใบมะพร้าว
นายเกษม คามี เป็นคนตำบลสันทรายหลวง อำภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ผลงาน การสานใบมะพร้าวรูปแบบต่างๆ ได้แก่ ปลาช่อน ปลาตะเพียน จิ้งจก ซุ้มประตูรูปแบบต่างๆ หมวกใบมะพร้าว วัสดุเครื่องมือ ขั้นตอนวิธีการทำ การอนุรักษ์สืบสาน เผยแพร่และการถ่ายทอด แหล่งที่มา : โครงการสำรวจข้อมูลปราชญ์ท้องถิ่นล้านนา โดย นายวุฒิภัทร เกตุพัฒนพล ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยแม่โจ้
-
นายทอง สุกันธา ด้านหัตถกรรมจักสาน
นายทอง สุกันธา เป็นคนตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ผลงาน นายทอง สุกันธา มีความสนใจการจักสานจึงได้เรียนรู้ฝึกทำด้วยตนเองจนเกิดความชำนาญ มีความสามารถจักสานได้หลายอย่าง ได้แก่ ก๋วยตี๋นช้าง ก๋วยสังฆทาน ไม้กวาดแข็ง ไม้กวาดอ่อน ซ้าหวด ก๋วยใส่หญ้า ฝาชี ต๋าแหลว ขันโตก ตุ้มดักปลาไหล สานสาดแหย่ง (เสื่อกก) ก๋วยสลาก จักตอก วัสดุเครื่องมือ การทำไม้กวาดแข็ง รูปอุปกรณ์การทำไม้กวาดแข็ง ขั้นตอนการทำไม้กวาดแข็ง นายทอง สุกันธา กาลังทำไม้กวาดแข็ง ไม้กวาดแข็งที่ทำเสร็จแล้ว การอนุรักษ์สืบสาน เผยแพร่และการถ่ายทอดองค์ความรู้ ได้มีผู้ที่ให้ความสนใจมาเรียนการจักสานที่บ้านหลายคนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ สอนให้คนอื่นรู้เพื่อเป็นวิทยาทาน และยากให้ผู้ที่มีความสนใจในด้านนี้มาเรียนรู้เพราะไม่ยากให้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการจักสานหายไปจากชุมชน แหล่งที่มา : โครงการสำรวจข้อมูลปราชญ์ท้องถิ่นล้านนา โดย นายวุฒิภัทร เกตุพัฒนพล ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยแม่โจ้
-
นายชูชาติ ใหม่ตาคำ ปราชญ์ล้านนาหมอเมือง
นายชูชาติ ใหม่ตาคำ เป็นคนตำบลสันทรายหลวง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ผลงาน หมอเมืองรักษากระดูกต่อกระดูก (กวาดซุย) เช็ดตุ่ม เป่าตา เป่าปาก (เป็นเม่า) เช็ดปวดเมื่อย รักษาโรคมะโหก (โรคริดสีดวงทวารหนัก) ซึ่งมีรูปแบบที่รักษากันไปตามโรค โดยใช้คาถาเป่า เหล้าขาว น้ำมันงา เงินแถบ ไข่ไก่ต้ม มีดแฮกเขาควาย สมุนไพรหว่านทรหด ทำการรักษาแก่ผู้ป่วยภายในหมู่บ้านและผู้ป่วยที่ทราบข่าวจากคนไข้ที่เคยรักษาแล้วหายจากโรคต่างๆ วัสดุที่ใช้รักษาการต่อกระดูกด้วยการกวาดซุย 1. ขันตั้งสามสิบหก 1 ขัน 2. เหล้าขาว 3. น้ามันงา 4. ใบพลู 5. สาลี 6. น้ำเปล่า วิธีการรักษา 1. ตั้งขันสามสิบหก ประกอบด้วยสวยดอกไม้ธูปเทียน 36 สวย สวยหมากพลู 36 สวย หมาก 1 หัว เหล้าขาว 1 ขวด ผ้าขาว ผ้าแดง ข้าวเปลือก ข้าวสาร เงินขั้นตั้ง 136…
-
นายมานพ วังศรี ภูมิปัญญาล้านนาดนตรีพื้นเมืองประยุกต์
นายมานพ วังศรี ภูมิปัญญาล้านนาดนตรีพื้นเมืองประยุกต์และหัตถกรรมเครื่องเงิน นายมานพ วังศรี เป็นคนบ้านแม่ย่อย ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เคยบรรเลงกับวงอื่นมาก่อนหลายวง เช่น วงพลังหนุ่มแม่ย่อย วงขวัญใจแม่หม้าย วงกู่เสือ วงชัยนารายณ์ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย วงป่าบงศิลป์ วงศิษย์เจ็ดสี เริ่มเข้าวงเพชรพยอม เมื่อปี 2550 ประสบการณ์เป็นนักดนตรี 30 กว่าปี สามารถเล่นเครื่องดนตรีได้หลายชนิดได้แก่ ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ระนาดเหล็ก กลองเต่งถึ้ง กลองบองโก้ คีย์บอร์ด แนหลวง ตาแหน่งประจาคือ ฆ้องวง นอกจากเป็นนักดนตรีปี่พาทย์ล้านนาแล้วยังมีความสามารถในการดุนโลหะทำเครื่องเงินขึ้นรูปตอกลายแม่ย่อยได้อย่างชำนาญทั้งพาน สะลุง เข็มขัดเงิน เป็นต้น วงปี่พาทย์ล้านนา “วงเพชรพยอม” แหล่งที่มา : โครงการสำรวจข้อมูลปราชญ์ท้องถิ่นล้านนา โดย นายวุฒิภัทร เกตุพัฒนพล ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยแม่โจ้
-
อนันต์ สุจริต ภูมิปัญญาการทําโคมแขวนล้านนา
ภูมิปัญญาการทําาโคมแขวนล้านนา นายอนันต์ สุจริต ตําบลสันนาเม็ง อําเภอ สันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ผลงานการทําโคมแขวนล้านนา ขนาด 5 นิ้ว 4 นิ้ว 6 นิ้ว 14 นิ้ว 15 นิ้วและขนาด 1 เมตร ทํา โคมเงี้ยว โคมร่ม โคมดาว ตุงชัย โดมทรงเพชร โคมประยุกต์ ตุงจ่อและโคมเพชรฐานบัว ออกแบบและ พัฒนาโคมให้มีลักษณะที่แตกต่างจากที่อื่น โดยใช้วัสดุทั้งที่เป็นผ้าผ้าและกระดาษสา โดมแขวนจะนิยมซอกันในช่วงประเพณียี่เป็งหรืองานลอยกระทง เพื่อนําไปแขวนประดับตามบ้านเรือน วัดวาอาราม แล้วจุดผางประทีปใส่ในโคมเพื่อเป็นการบูชาและสร้างความสวยงามในยาม กลางคืน โดมที่มีผู้นิยมซื้อจํานวนมาก คือโคมแขวนการดาษสาขนาด 5 นิ้ว ราคา 20-25 บาท นอกจากจะได้ขายในประเพณีที่กล่าวมาแล้วนั้น ยังสามารถนําไปตกแต่งตามโรงแรม รีสอร์ท หรือการ จัดงานต่างๆ ตาม Theme งานที่กําหนดไว้ หรืออาจจะนําไปใช้ในขบวนแห่ได้อีกด้วย ขั้นตอนการประดิษฐ์โคมแขวนอย่างง่ายดังนี้ วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ทําโคมแขวน…