แม่โจ้ในอดีต

  • ชีวิตนักเรียน ครูกสิกรรมแม่โจ้

    ชีวิตนักเรียน ครูกสิกรรมแม่โจ้

    by

    |

    in

    ช. มณีมาโรจน์   การสถาปนา ชีวิตให้รุ่งโรจน์ โชติช่วง นั้นต้องอาศัยวิริยภาพและปัญญาอันหลักแหลม ประหนึ่ง เป็นประทีปดวงใหญ่ที่คอยให้ความสว่าง ขจัด ความมืดมนอนธการทั้งมวลให้ปลาตสิ้นศูนย์ ธรรมชาติได้ เสกสรรค์มาตั้งแต่ดั้งเดิมแล้ว สมองและพละกําลัง เป็นสิ่งจําเป็น แก่นักเรียน ครูกสิกรรมอย่างที่สุด จะให้ลด หย่อน ทางใดทางหนึ่งย่อมไม่ได้ งานศิลปที่ทําเป็นหลักปฏิบัติหลังจากที่เราได้ ศึกษาความลึกลับมหัศจรรย์ของ พฤกษชาติแล้ว ศิลปบางชนิดเราต้องใช้ความอุตสาหะพากเพียรของเรารวม หน่วยเพื่อให้บรรลุ ความสําเร็จเป็นประโยชน์แก่สถานศึกษาของเรา นักเรียนที่ปราศจากวิริยภาพในงานศิลป์ จะแข็งแกร่งทรหด อยู่ในโรงเรียนของเราไม่ได้ เพราะขาดกําลังจิตใจ […]

  • เมื่อผมสอบเข้า แม่โจ้

    เมื่อผมสอบเข้า แม่โจ้

    by

    |

    in

    ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด เมื่อจบมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก็เข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ โดยเลือกเรียน ภาษาต่างประเทศ มีโครงการว่าจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ แต่ไอ้การที่เป็นคนไม่รักดี เรียนยังไม่ทัน สิ้นปีก็เปลี่ยนโครงการใหม่ ในที่สุดก็สอบตก หลังจากได้ใบสุทธิแล้ว ผมก็มุ่งหน้าขึ้นสู่เชียงใหม่ ถิ่นไทยงาม เนื่องจากผมเป็นคนชอบอ่านนวนิยาย เป็นอย่างยิ่ง ทำให้ผมรู้จัก “เสือ กลิ่นสัก” ในร้อยป่า และ “เลิศ แหลมฉาน” จากธาตุกระทิง และก็รู้จักแม่โจ้ สถาบันที่พระเอกทั้งสองได้เข้าเรียน ถูกแล้วครับ ผมขึ้นเชียงใหม่ เพื่อจะสอบคัดเลือกเข้าเรียนต่อที่แม่โจ้ และก็เป็นโอกาสอันดีที่จะได้เที่ยวสงกรานต์เชียงใหม่ […]

  • ชีวิตรุ่น 33

    ชีวิตรุ่น 33

    by

    |

    in

    ณ. ที่นี้ขอกล่าวย้อนหลังไปอีก 3 ปี  ปีที่ทุกคนไม่อาจลืมได้จนชั่วชีวิต ความหวังก่อนหน้านั้น ทุกคนมาศึกษาแม่โจ้เพื่อเป็นบันไดต่อชีวิตให้กับอนาคตและชีวิตของตัวเอง สิ่งที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไปไม่ได้ก็คือ “การใช้ชีวิตร่วมแห่งสถาบันเดียวกัน” ครั้งแรกจะไม่มีใครคิดเฉลี่ยวใจเลยว่าการดำเนินชีวิตในแม่โจ้นั้น มันมีความเข้มข้นเพียงใดและเกี่ยวโยงกับอนาคตกาลข้างหน้าของเรา ๆ อย่างไร? ทั้งนี้เพราะว่าทุกคนมัวหลงระเริงอยู่กับคำสรรเสริญเยินยอที่ได้รับจากรุ่นพี่ก็อาจเป็นได้ โดยไม่มีใครล่วงรู้เลยนั่นเป็นชีวิตอีกแง่หนึ่งใน จํานวนหลาย ๆ แบบ ในแม่โจ้ซึ่งผู้ที่เคยเหยียบผืนดินแห่งนี้มาก่อนได้ช่วยกันขนานนามให้เสียอย่างโก้หรูว่า “ประเทศแม่โจ้” หลังจากวันที่ 7 มิถุนายน ไปแล้วนั่นแหละทุกคนจึงรู้ว่า ตนเองได้ตกอยู่ภายใต้ขอบเขต – กฎของธรรมนูญอีกฉบับหนึ่ง นับเป็นครั้งที่ 33 ลูก […]

  • โรงเรียนเกษตรแม่โจ้สมัยบุกเบิก

    โรงเรียนเกษตรแม่โจ้สมัยบุกเบิก

    by

    |

    in

    กําจร บุญแปง สิ่งประทับใจครั้งแรก ต้นเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2477 ผมได้ไปรายงานตัวที่แผนกศึกษาธิการในฐานะเป็น นักเรียนทุนครูเกษตรของจังหวัดเชียงใหม่ แล้วก็เดินทางออกจากจังหวัดกลับไปบ้านที่บ้านต้นซาง หมู่ที่ 9 ต. สันทรายหลวง อ. สันทราย โดยพาหนะรถจักรยานสามล้อแบบตอปิโด (คือรถพ่วงข้าง คนโดยสารนั่งข้างคนขี่รถ แต่หันหน้าไปข้างหน้า 1 คน และหันหน้าไปทางท้ายรถ 9 คน) เสียค่ารถหนึ่งสลึง (25 สตางค์) สำหรับระยะทางราว 10 กม. […]

  • “งานหนักไม่เคยฆ่าคน”

    “งานหนักไม่เคยฆ่าคน”

    by

    |

    in

    “งานหนักไม่เคยฆ่าคน” หากได้ยินคำนี้จะทำให้เรานึกถึงลูกแม่โจ้ แต่หลายท่านอาจจะไม่รู้ประวัติความเป็นของปรัชญางานหนักไม่เคยฆ่าคน ฝ่ายจดหมายเหตุและคอลชั่นพิเศษ จึงขอกล่าวถึงเรื่องราวความเป็นมาของประวัติปรัชญางานหนักไม่เคยฆ่าคน ศาตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย ให้ไว้เมื่อปี พ.ศ. 2497 ศาตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย ได้รับราชการในตำแหน่งอาจารย์ใหญ่โรงเรียนเกษตรกรรมแม่โจ้ นับเป็นช่วงสำคัญของการพัฒนาแม่โจ้สู่มิติใหม่ โดยรับจำนวนนักศึกษาเกินกว่าที่กรมอาชีวศึกษากำหนด จึงต้องพิสูจน์ให้เห็นว่านักศึกษาเหล่านั้นมีความพร้อมและต้องการเรียนเกษตรจริง ๆ ด้วยการทำงานหนักหลังผ่านการทดสอบได้เดือนเศษ ท่านได้กล่าวแสดงความยินดีต่อนักศึกษาที่เหลืออยู่ว่า “การเรียนเกษตรที่แม่โจ้นี้ ต้องฝึกความทรหดสู้งานทุกอย่างได้ ไม่ถ้อถอย เพื่อจะได้เป็นลูกแม่โจ้ที่อดทน เข้มแข็ง ไม่กลัวงานหนัก ท่านขอให้จดจำคำพูดของท่านเสมอว่า […]

  • สระเกษตรสนาน

    สระเกษตรสนาน

    by

    |

    in

    งานฤดูหนาวจังหวัดเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2478 นั้น เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2478 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2479 ทางสถานีทดลองกสิกรรม และโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรม ภาคเหนือ ก็ได้จัดนิทรรศการแสดงกิจกรรมการเกษตรด้วยโดยใช้อาคาร “เรือนเพชร” โรงเรียนยุพราชวิทยาลัยเป็นที่จัดแสดงเป็นครั้งแรกที่มีการออกร้านนิทรรศการของหน่วยงานราชการ จากส่วนกลางไปร่วมงานฤดูหนาวเชียงใหม่ วันที่ 18 ธันวาคม 2478 อาจารย์ใหญ่ คุณพระช่วงฯ ได้หารือกับนักเรียนทั้งหมด 266 คน ในวันปิดภาคเรียนเทอมกลาง […]

  • “ความรู้สึกของข้าพเจ้าต่อสถาบันแม่โจ้”

    “ความรู้สึกของข้าพเจ้าต่อสถาบันแม่โจ้”

    by

    |

    in

    “ความรู้สึกของข้าพเจ้าต่อสถาบันแม่โจ้” โดย นายอนันต์ โกเมศ ข้าพเจ้าคิดว่ามีคนจํานวนไม่น้อยที่รู้จักและคุ้นเคยกับคําว่า “แม่โจ้” ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาทางการเกษตรที่เก่าแก่สถาบันหนึ่งของประเทศไทย ที่ได้ผลิตนักศึกษาหรือบุคคลากรด้านเกษตรออกไปประกอบอาชีพในสถาบันต่าง ๆ รวมทั้งในภาคเอกชนด้วยเป็นจํานวนมาก ข้าพเจ้าก็เป็นบุคคลหนึ่งที่ได้ผ่านการศึกษาจากสถาบันนี้ ซึ่งในขณะนั้น “แม่โจ้” มีฐานะเป็น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีหลักสูตร 2 ปี เมื่อสําเร็จแล้วบางท่านก็ออกไปประกอบอาชีพรับราชการตามกรมต่าง ๆ และประกอบอาชีพส่วนตัวก็มีมาก และที่เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ก็มีเป็นบางส่วน และมีส่วนน้อยที่ได้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยอื่น เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถึงแม้ว่าจะแยกย้ายกันไปหลังจากสําเร็จการศึกษาแล้วก็ตาม แต่ความผูกพันต่อสถาบันแม่โจ้ ต่อเพื่อนร่วมชั้นและร่วมสถาบันยังคงมีอยู่อย่างแน่นแฟ้นและมิได้เลือนลางไปจากจิตใจของทุกคน ถ้าจะพูดถึงสปิริตแล้วลูกแม่โจ้ทุกคนมีสปิริตสูง […]

  • ชีวิตสองปีในแม่โจ้

    ชีวิตสองปีในแม่โจ้

    by

    |

    in

    ชีวิตสองปีในแม่โจ้ โดย บุญช่วย เลี้ยงสกุล           การศึกษาทำให้นิสัยของมนุษย์งามน่าชม หลายคนที่พูดว่าการ กสิกรรมไม่ต้องศึกษาก็ทําได้ แน่นอน ใคร ๆ ก็ทำการกสิกรรมได้ แต่ผู้ที่มีการศึกษาสูงจึงจะทราบได้ว่า การศึกษากสิกรรมดีอย่างไร ผู้ที่ไม่ได้ศึกษาคงทราบไม่ได้ว่า วิชากสิกรรมมีหลักอย่างไรบ้าง สําหรับผู้ที่ได้เรียนได้รู้คงทราบว่า วิชากสิกรรมเป็นวิชาที่ยาก ไม่ใช่เรียนจากการพูดหรือตำหรับตำราเท่านั้น ต้องอาศัยความชำนาญทางปฏิบัติเป็นส่วนมาก จึงจะยังผลให้สําเร็จได้ ผู้ใดที่ไม่นึกเช่นนี้ ก็เท่ากับไม่ได้เรียนหลักกสิกรรม กสิกรรมเป็นการกระทำที่ยากลําบาก กสิกรต้องศึกษาและปฏิบัติงานด้วยความสามารถ ทั้งต้องเป็นผู้อดทน และ ขยันขันแข็ง จึงจะทราบผลว่าการกสิกรรมเป็นอย่างไร พวกเราได้อุทิศร่างกายและใจบากบั่นมาเป็นกสิกรก็ด้วยเหตุผลที่กล่าวนั้น […]

  • อาจารย์ใหญ่คุณพระช่วงเกษตรศิลปการ

    อาจารย์ใหญ่คุณพระช่วงเกษตรศิลปการ

    by

    |

    in

    อาจารย์ใหญ่คุณพระช่วงเกษตรศิลปการ โดย นายธีระ นาคะธีรานนท์   อาจารย์ใหญ่หรืออาจารย์พระช่วงเกษตรศิลปการ เป็นเสมือนบิดาหรือผู้บุกเบิก “แม่โจ้” ในตําแหน่งราชการท่านคืออาจารย์ใหญ่ ร.ร. ฝึกหัดครูประถมกสิกรรมภาคเหนือ และร.ร.มัธยมวิสามัญเกษตรกรรมแม่โจ้จังหวัดเชียงใหม่ สําหรับโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมเริ่มตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2477 เป็นรุ่นที่ 1 โรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรม เริ่มตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2478 เป็นรุ่นที่ 1 ผู้เขียนจบจากโรงเรียนฝึกหัดครู รุ่นที่ 3 พ.ศ. 2479-2480 โดยเป็นนักเรียนในนามของจังหวัดนครสวรรค์เป็นผู้คัดเลือกส่งไป การเดินทางจากจังหวัดนครสวรรค์ไปจังหวัดเชียงใหม่ในสมัยนั้นถือว่าเป็นระยะทางที่แสนไกล […]

  • พระคุณของครู

    พระคุณของครู

    by

    |

    in

    พระคุณของครู  โดย ศาสตราจารย์ระพี สาคริก                                                     […]

  • ไม่มีชนเหนือชั้นในแม่โจ้

    ไม่มีชนเหนือชั้นในแม่โจ้

    by

    |

    in

    ไม่มีชนเหนือชั้นในแม่โจ้ โดย กัสสปะ อัคนิทัต   ผู้เขียนหลายท่าน ได้บรรยายไว้ค่อนข้างละเอียดถึงบุคคลิกลักษณะ อุปนิสัย ความรู้ ความสามารถ ความเมตตาปราณี ความมีมนุษยสัมพันธ์กับผู้ร่วมงานทุกชนชั้น ตลอดจนการบําเพ็ญตนในฐานะอาจารย์ต่อศิษย์ได้ครบถ้วนของอาจารย์พระช่วงเกษตรศิลปการ โดยเขียนตามทรรศนะของแต่ละท่าน แต่ทั้งหลายทั้งสิ้นก็มารวมเป็นทรรศนะเดียวกันเป็นเอกฉันท์ คือท่านอาจารย์พระช่วงฯ เป็นบุคคลที่ควรแก่การเทิดทูน เคารพ บูชา และควรถือเป็นแบบอย่างของผู้ที่เป็นครูอาจารย์ ทั้งมวลที่รักและประสงค์จะเป็นครูอาจารย์ที่เพียบพร้อมด้วยคุณงามความดี เพื่อตนเองและเพื่อการศึกษาของประเทศ อีกทรรศนะหนึ่งที่ยังไม่มีผู้ใดกล่าวถึง ซึ่งได้มีความคิดคํานึงว่า การปฏิบัติตนอันเป็นอุปนิสัยของอาจารย์ในเรื่องนี้มีความสําคัญเป็นอย่างยิ่ง และมีความสัมพันธ์ต่อเนื่องที่บันดาลให้แม่โจ้เป็นดินแดนแห่งความสงบ ร่มเย็น ปราศจากการแตกแยกไม่ว่าจะเป็น ระหว่างนักเรียนต่อนักเรียน (จํานวน […]

  • เยาว์วัยในแม่โจ้

    เยาว์วัยในแม่โจ้

    by

    |

    in

    เยาว์วัยในแม่โจ้ โดย ชื่นสุข โลจายะ จําได้ว่าขณะที่อยู่กับคุณพ่อที่แม่โจ้นั้น ดิฉันเพิ่งอายุแค่ 4 ขวบ อยู่ที่นั่นจนกระทั่ง อายุ 6 ขวบ จึงกลับมาอยู่กรุงเทพฯ เราเริ่มต้นที่แม่โจ้ด้วยการอยู่ในบ้านกระต๊อบหลังคามุงด้วยใบตองตึง (ใบพลวง) ใบตองตึงเป็นใบไม้ใหญ่ รูปไข่คล้ายใบหูกวาง เอามาเย็บติดต่อกันเป็นตับๆ คล้ายตับจาก เวลาจะเดินทางจากบ้านแม่โจ้เข้าเมืองเชียงใหม่ บางครั้งไม่มีเกวียนจะนั่งก็ต้องเดิน เอาใบตองตึงมาปิดศีรษะกันแดด ตอนขากลับเข้าแม่โจ้เวลากลางคืน คุณพ่อเอาปืนมาวางบนตัก เกรงจะมีอันตรายกลางทาง เพราะเป็นการเดินทางในป่าที่แสนมืด ช่างน่ากลัวเสียจริง ๆ เด็ก ๆ […]