BeliefsFOLKWAYS

“ผีเจ้านาย” เปลี่ยนร้ายกลายเป็นดี คอยช่วยเหลือปกป้องผู้คน

0

การเล่าเรื่องราวของผีเจ้านายครั้งนี้ถูกถ่ายทอดผ่านมุมมองของบุคคลทั่วไปไม่ใช่ผู้สืบทอดโดยตรง ซึ่งการรับรู้เรื่องราวของแต่ละบุคคลก็แตกต่างกันไปแม้จะเป็นเรื่องราวเดียวกัน และเรื่องราวนี้เป็นเพียงแค่มุมมองของคนไม่กี่คนเท่านั้น

ผีเจ้านาย คือ ผีที่มาประทับทรงเพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของชาวบ้านชาวเมือง ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้มีชีวิตการเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ช่วยในการตัดสินใจ ช่วยในการคุ้มครอง ช่วยให้พ้นจากภาวะที่เลวร้าย รวมถึงช่วยในการทำนายอนาคตและโชคชะตาของบุคคล และผีเจ้านายสามารถพูดคุยสื่อสารกับผู้คนได้

ความเป็นมาของผีเจ้านาย

ผีเจ้านายในสมัยก่อนจะเป็นวีรบุรุษหรือนักรบที่มีเคราะห์กรรมบางอย่างทำให้ไม่สามารถไปเกิดได้ เมื่อมีผู้สร้างศาลให้ก็มาสถิตอยู่ที่ศาลนั้นและจะคอยช่วยเหลือชาวบ้านชาวเมือง โดยการเข้าสิงม้าขี่หรือคนทรงแล้วทำกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งเมื่อผีเจ้านายเข้าประทับทรงแล้ว ม้าขี่หรือคนทรงก็จะเปลี่ยนเครื่องแต่งกายพร้อมกับปรับภาษาพูดและสำเนียงให้สอดคล้องกับยุคสมัยและความเคยชินในขณะที่ผีเจ้านายนั้น ๆ มีชีวิตอยู่และจะเรียกตนเองว่าเจ้าปู่ เจ้าพ่อ หรือเจ้าพี่ตามอายุในขณะที่ผีเจ้านายนั้น ๆ เสียชีวิตเมื่อยังเป็นคนอยู่ (อุดม รุ่งเรืองศรี, 2542)  

เกณฑ์ในการเป็นคนทรงผีเจ้านาย

คนทรงไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเองเพราะเกณฑ์ในการกำหนดว่าใครจะเป็นคนรับช่วงต่อขึ้นอยู่กับดวงวิญญาณสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นคนเลือกและไม่มีการสืบทอดจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่งภายในตระกูลใด ๆ ทั้งนั้น ถึงแม้จะมีการบอกกล่าวผีเจ้านายว่าลูกหลานจะเป็นแทนตนแล้วก็ไม่สามารถเป็นได้ แต่ถ้าลูกหลานของคนทรงเข้าข่ายเกณฑ์ที่ผีเจ้านายตั้งไว้ก็สามารถสืบทอดต่อได้ รวมถึงคนทรงเจ้าคนล่าสุดเสียชีวิตหรือไม่สามารถทรงต่อได้แล้วผีเจ้านายอาจจะไปเลือกคนจากหมู่บ้านอื่นเลยก็ได้ ไม่มีข้อกำหนดชัดเจน (ชยุคภัฎ คำมูล, สัมภาษณ์, 23 มกราคม 2567)

ขั้นตอนในการทำพิธี

1. ผู้ช่วยของคนทรงทำการจุดธูปบูชาพระพุทธรูป แล้วจุดธูปเพื่อแสดงความเคารพต่อผีเจ้านาย และปักธูปไว้ที่กระถางธูป

2. ม้าขี่หรือคนทรงแต่งกายด้วยชุดลำลองนั่งขัดสมาธิบริเวณหน้าโต๊ะเครื่องหมู่บูชา เมื่อผีเจ้านายเข้าทรงแล้วจะมีอาการตัวสั่น บางครั้งม้าขี่จะมีอาการหาวหรืออาการกึ่งหลับกึ่งตื่น

3. จากนั้นม้าขี่จะเริ่มไหว้พระและแต่งตัวซึ่งประกอบด้วย เสื้อ ผ้านุ่งเอามาทำเป็นโสร่งหรือใช้กางเกงแพร ผ้าแพรเอาไว้โพกศีรษะ กำไล นาฬิกา และแว่นตา

4. เมื่อแต่งตัวเสร็จแล้วจะทำการไหว้พระและหิ้งต่าง ๆ อีกครั้ง

5. หลังจากนั้นจะเริ่มทักทายกับผู้คนด้วยน้ำเสียง ลีลาการพูด และคำศัพท์ที่ใช้แตกต่างจากลักษณะปกติของม้าขี่ แสดงให้เห็นว่าผีเจ้านายประทับร่างแล้วเรียบร้อย

6. ผู้ไปขอความช่วยเหลือจะเสียค่าขึ้นขันครูและค่าธูปเทียนเครื่องบูชาต่าง ๆ ก่อนถึงจะเข้าไปขอความช่วยเหลือจากผีเจ้านายได้ โดยผีเจ้านายจะอธิบายถึงสาเหตุของการประสบเคราะห์กรรมและบอกวิธีแก้ไขให้สิ่งไม่ดีออกไป เช่น เสกน้ำมนต์ให้ไปอาบที่บ้าน ทำเทียนเสกให้ไปจุดบูชา เสกเหล้าพ่น เป็นต้น

7. เมื่อเสร็จสิ้นพิธีแล้ว ผีเจ้านายจะออกจากร่างของม้าขี่ด้วยการหาว ลงนอน ชักกระตุก สั่น เรอ หรืออาเจียนระยะหนึ่งแล้วนิ่งไปซึ่งแต่ละวิธีการนั้นจะแตกต่างกันไปตามความเฉพาะของผีเจ้านายแต่ละตัว

การบูชาผีเจ้านาย

การบูชาผีเจ้านายนั้นมีความเชื่อว่าในเมื่อครูบาอาจารย์หรือผีเจ้านายให้วิชาความรู้มาแล้วซึ่งสามารถนำไปช่วยเหลือผู้คนได้ เพราะฉะนั้นเพื่อการตอบแทนบุญคุณ 1 ปีจะมีการจัดพิธีไหว้ครู 1 ครั้ง  โดยจะจัดขึ้นได้หลังเดือน 9 ของภาคเหนือ หรือประมาณเดือนมิถุนายนเป็นช่วงหลังการเลี้ยงผีเมืองแล้ว

1. ขันครู จะมีการทำขันขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องบูชาครู แต่ละพื้นที่ก็มีรายละเอียดต่างกันไป

2. เครื่องสังเวย เช่น ผลไม้ ไก่ หัวหมู ขนมหวาน เหล้า เบียร์ ซึ่งแต่ละพื้นที่มีการจัดเตรียมเครื่องสังเวยแตกต่างกันไป

3. การฟ้อนรำบวงสรวง โดยการจัดฟ้อนรำขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์ของแต่ละบ้าน แต่อย่างน้อย ๆ ภายในระยะเวลา 2-3 ปีต้องจัด 1 ครั้ง แต่ถ้าปีไหนไม่มีการจัดก็ต้องบอกกล่าวผีเจ้านายว่าปีนี้ไม่มีการจัดฟ้อนรำ แต่เปลี่ยนพานครูให้และจัดพิธีไหว้ครูแบบเงียบๆ เท่านั้น

ภาพโดย : มิติชนสุดสัปดาห์

ความแตกต่างในอดีตและในปัจจุบัน

ในอดีตสำนักไหนที่มีการทรงผีเจ้านายแล้วต้องการจัดงานฟ้อนรำจะมีการกระจายข่าวไปยังคนทรงผีเจ้านายสำนักอื่น ๆ เพื่อให้เกียรติกันมาไหว้ครูบาอาจารย์ของสำนักตนเองด้วยการให้คนไปเชิญและการออกบัตรเชิญให้ ทั้งนี้จำนวนของลูกศิษย์และผีเจ้านายสำนักอื่นที่ไปร่วมในการไหว้ครูหรือฟ้อนรำด้วยนั้นก็จะขึ้นอยู่กับชื่อเสียงของผีเจ้านายที่เป็นผู้จัดงาน ซึ่งภายในงานจะมีคนมารอกันเป็นจำนวนมากเหมือนกับมีการชุมนุมหมอที่เก่ง ๆ ในหลายด้านมารวมกันในวันนี้ เช่น ผีเจ้านายของสำนักนี้เก่งในเรื่องการรักษาโรคผิวหนัง สำนักนี้ถนัดเรื่องการแก้ของ เมตตามหานิยม และผู้คนมาร่วมงานอาจจะขอความช่วยเหลือจากผีเจ้านายแต่ละสำนักได้ แตกต่างกับในปัจจุบันอย่างมากที่บางสำนักมีการจัดงานเพื่อเป็นการบ่งบอกสถานะทางสังคมของคนทรง มีการอวดอ้างกันในเรื่องจำนวนของลูกศิษย์ มีการจ้างวงดนตรีมาหลายๆ วงเพื่อมาประชันความสามารถกัน รวมถึงผู้คนในงานสนใจในเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์ของมึนเมา เต้นรำกันเกินงาม เน้นไปที่ความสนุกสนานอย่างเดียวจนลืมแก่นแท้ของงานที่มีการจัดขึ้นมาเพื่อขอบคุณครูบาอาจารย์ ให้เกียรติกันและกัน นอกจากนี้ยังมีเรื่องเงินทองเข้ามาเกี่ยวข้อง เน้นไปที่การทำธุรกิจมากกว่าความศรัทธา เช่น การเรียกเก็บเงินแบบรายปีสำหรับบุคคลที่ต้องการมาร่วมงานหรือทำพิธีกรรมต่าง ๆ (ชยุคภัฎ คำมูล, สัมภาษณ์, 23 มกราคม 2567)

ภายโดย : เพจเชียงใหม่นิวส์

แหล่งที่มา

ชยุตภัฎ คำมูล. (2567, มกราคม 23). ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สังกัดคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้. สัมภาษณ์

อุดม รุ่งเรืองศรี. (2542). ผีเจ้านาย. ใน สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคเหนือ (เล่ม 8, หน้า 4089-4092). กรุงเทพฯ: มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ธนาคารไทยพาณิชย์.

Porakamol Massamer
Intern Student form Faculty of Humanities, Chiang Mai University

    “ประเพณีปอยหลวง” การเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ของชาวล้านนา

    Previous article

    “ผีเสื้อบ้าน” ตำนานผีล้านนา ปกปักษ์รักษาดูแลหมู่บ้าน

    Next article

    Comments

    Comments are closed.