ChurchDISCOVERReligious Place

คริสตจักรสายธารพระพร

0

คริสตจักรสายธารพระพร คริสตจักรสังกัด สภาคริสตจักรในประเทศไทย ภาค 01 (สภาฯ) เขตอภิบาล 4 ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1953

บุคคลที่ติดต่อได้

ศาสนาจารย์ธวัช จันตาใหม่ ตำแหน่ง ศิษยาภิบาล

Website คริสตจักรสายธารพระพร

ที่อยู่

เลขที่ 1 หมู่ 17 ตำบล ป่าไผ่ , อำเภอ สันทราย , จังหวัด เชียงใหม่ , ประเทศไทย

ประวัติ

ประวัติของคริสตจักรสายธารพระพร สังกัดภาคที่ 1 สภาคริสตจักรในประเทศไทย จากบทความ จากบรรพบุรุษแห่งความเชื่อของคริสตจักร  สันทราย  เป็น ป่าเหมือด และ มาเป็น สายธารพระพรเรียบเรียงโดย  ผู้ปกครอง ดร.รักษ์  พรหมปาลิต[1]

คริสตสมาชิกของคริสตจักรสายธารพระพรในปัจจุบัน (ค.ศ. 2019) มีรากบรรพบุรุษแห่งความเชื่อเริ่มต้นในสมัยพ่อครูดาเนียล แมคกิลวารี ที่ได้มาประกาศเผยแพร่คริสตศาสนาในจังหวัดเชียงใหม่ และคณะเพรสไบทีรี่ได้สถาปนาเป็น “คริสตจักรสันทราย” ขึ้นเป็น คริสตจักรลำดับที่ 4 ในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ค.. 1894 (.. 2437) หรือประมาณ 125 ปีที่ผ่านมา  มีสมาชิกเริ่มต้นเฉพาะผู้ใหญ่จำนวน 69 คน เช่น  นาย(น้อย)มี สิทธิธัญญ์  นาย(น้อย)แก้ว รังสรรค์   นาย(น้อย)ตุ้ย ไชยวรศิลป์  นายหมด สุริยะคำ  และ นางปา (ไม่ทราบนามสกุลซึ่งเป็นญาติทางภรรยาของนายแก้ว รังสรรค์

โดยเฉพาะอย่างยิ่งนาย(น้อย)มี สิทธิธัญญ์ มีตำแหน่งในคริสตจักรเป็นผู้ปกครอง และตำแหน่งในชุมชนเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านป่าไผ่  ซึ่งทางมิชชั่นนารีเรียกท่านว่า “Abraham of the Village” หรือ อับราฮัมของหมู่บ้าน สมาชิกของคริสตจักรสันทรายมีภูมิลำเนาอยู่ใน 3 หมู่บ้านคือ บ้านสันทรายหลวง  บ้านป่าเหมือด และบ้านบ่อหิน

สมาชิกคริสตจักรสันทรายซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านป่าเหมือดและบ่อหิน มีความไม่สะดวกในการเดินทางไปนมัสการที่โบสถ์คริสตจักรสันทราย ดังนั้นคณะธรรมกิจคริสตจักรสันทรายจึงแจ้งต่อคณะกรรมการอำนวยการภาคที่ 1 เชียงใหม่ลำพูน ในการประชุมครั้งที่ 9/1951 เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 1951 ว่า “คริสตจักรสันทรายขอแยกคริสตจักรออกตั้งเป็น 4 คริสตจักร” โดยมีเหตุผลว่า “แยกโดยความสมัครใจและความรัก  คณะหมวดต่าง ๆ อยู่ไกล และเพื่อความขยายตัวของคริสตจักรต่อไป”  ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติว่า “ตกลงมติเห็นชอบด้วย แต่แนะนำไว้ว่าให้ยื่นคำร้องขอตั้งเป็นคริสตจักร ตลอดจนถึงชื่อคริสตจักรต่อการประชุมคราวหน้า  ในระหว่างนี้ให้ดำเนินเป็นหมวดไปก่อน  แต่ให้พยายามหาสถานที่โบสถ์ และเจ้าหน้าที่ไว้ อนึ่งถ้าเป็นได้ ให้โอนเข้าในมูลนิธิของสภาฯ ด้วย”  ดังนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของหมวดคริสเตียนบ้าน        ป่าเหมือด

หมวดคริสเตียนบ้านป่าเหมือด มีที่ตั้งบ้านเรือนสมาชิกส่วนใหญ่ที่ บ้านป่าเหมือด ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย ห่างจากโบสถ์    คริสตจักรสันทรายประมาณ 3-4 กิโลเมตร มีสมาชิกที่แยกออกมา 95 คน แบ่งเป็น 13 ครอบครัว คือ

  1. ศจ.โหม้ สิทธิธัญญ์
  2. ผป.คำตั๋น สิทธิธัญญ์
  3. ผป.ใจมา นพคุณ
  4. ผป.สงวน ทับทอง
  5. ผป.อิ่น ชัยปหลาด
  6. ผป.ต่อม สิทธิธัญญ์
  7. ผป.ดวงคำ ชัยปหลาด
  8. มน.คำปัน ชัยปหลาด
  9. นายอ้าย มณีขัติ
  10. นายเมา สิทธิธัญญ์
  11. นายอ้าย นันป้อ
  12. นายหลาน วงค์จักร
  13. ครูประสิทธิ์ สิทธิธัญญ์

สมาชิกของหมวดคริสเตียนบ้านป่าเหมือดมีการนมัสการทุกวันอาทิตย์ โดยเวียนไปตามบ้านสมาชิก ในระยะเริ่มต้นในปี 1951 นั้น ทางคริสตจักรสันทรายมีโครงการที่จะสร้างโบสถ์หลังใหม่ขึ้น(หลังที่ 4) จึงได้รื้ออาคารโบสถ์หลังที่ 3 ยกให้ทางหมวดคริสเตียนบ้านป่าเหมือด โดยมอบอิฐเก่า  ไม้  นาฬิกาแขวน และเงินสดประมาณ 200 บาท ให้เป็นทุนดำเนินการต่อไป

ประวัติสำคัญโดยย่อการก่อสร้างอาคารโบสถ์ หลังแรก

เริ่มการก่อสร้างโบสถ์หลังแรก ในปี ค.ศ. 1952 ด้านทิศตะวันออก บนถนนสันทราย-แม่โจ้(สายเก่า) ที่บริเวณบ้านป่าเหมือด   หมู่ที่ 4 ตำบลป่าไผ่ และได้ย้ายสถานที่ก่อสร้างโบสถ์หลังแรก มาทำการก่อสร้างใหม่ในบริเวณด้านทิศตะวันตก บนถนนสันทราย-แม่โจ้(สายเก่า) บนที่ดินของ ผป.ใจมา นพคุณ  ตกลงซื้อในราคา 4,000 บาท ในชื่อของ นางเสงี่ยม ช.สิงหเนตร ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของภาคที่ 1 และของสภาคริสตจักรในประเทศไทย

ประกอบพิธีวางศิลาหัวมุมอาคารโบสถ์หลังแรกในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1953 โดยหมออินตุ้ม สุดารัตน์ เป็นประธานในพิธี และ ผป.ใจมา นพคุณ เป็นประธานหมวดคริสเตียนบ้านป่าเหมือด ต่อมาในวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1956 หมวดคริสเตียนบ้านป่าเหมือดได้รับการสถาปนาเป็น “คริสตจักรป่าเหมือด ค.ศ. 1964   และได้สร้างอาคารโบสถ์หลังแรกสำเร็จ (ใช้ระยะเวลาก่อสร้างกว่า 12 ปี) จัดพิธีฉลองโบสถ์หลังแรกในเดือนพฤษภาคม ค.. 1964 ประกอบพิธีโดยศาสนาจารย์ดวง พันธุพงศ์ ประธานภาคที่ 1 ในสมัยที่ ผป.ดวงคำ ชัยปหลาด เป็นประธานคริสตจักรป่าเหมือด

การก่อสร้างโบสถ์ หลังที่สอง (หลังปัจจุบัน)

เนื่องจากอาคารโบสถ์หลังแรกได้สร้างในที่ดินที่จำกัด คับแคบ (หน้ากว้าง 5 เมตร  ลึก 20 เมตรและทางคริสตจักรไม่สามารถขยายที่ดินของโบสถ์ได้ ประกอบกับตัวอาคารโบสถ์ได้ชำรุดทรุดโทรมลงมาก ดังนั้นคณะธรรมกิจคริสตจักรป่าเหมือดจึงได้ประชุมกันเมื่อวันที่ 30 มกราคม 1972 มีความเห็นว่าควรจะเริ่มต้นหาที่ดินที่เหมาะสมในการสร้างอาคารโบสถ์หลังใหม่ต่อไป จึงมีมติตั้งอนุกรรมการหาเงินเพื่อโครงการขยายโบสถ์ชุดหนึ่ง และได้ซื้อที่ดิน 2 แปลงดังนี้

1) ค.ศ. 1973 ซื้อที่ดินแปลงแรก เนื้อที่ 1 – 0 – 90 วา คริสตจักรตกลงทำเป็นไร่นาของพระเจ้า

2) ค.ศ. 1977 ซื้อที่ดินแปลงที่ 2 เนื้อที่ 1 – 3 – 90 วา ตกลงเป็นที่ดินที่จะก่อสร้างอาคารโบสถ์หลังใหม่

ที่ดินทั้ง 2 แปลง ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 2 หนองเต่าคำ ต.ป่าไผ่ อยู่ห่างจากโบสถ์หลังแรกไปทางทิศเหนือ ระยะทางประมาณ 1,500 เมตร  บนถนนป่าเหมือด – หนองเต่าคำ

ในวันที่ 29 มกราคม 1978 คณะธรรมกิจคริสตจักรป่าเหมือด ได้ตั้งคณะกรรมการดำเนินงานหาเงินสำหรับสร้างโบสถ์ใหม่ขึ้นชุดหนึ่ง และในปี ค.ศ. 1987 แบบแปลนอาคารโบสถ์หลังใหม่สำเร็จโดยมี มน.วิทยา วุฒิ เป็นผู้ออกแบบ  คุณอนุพร อินทะพันธุ์ เป็นสถาปนิก  คุณนิคม บัววังโป่ง เป็นวิศวกร

มีพิธีวางศิลาเสาเอกในวันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1987 ประกอบพิธีโดย ศานาจารย์เจษฎา ฐิติจำเริญพร รองประธานคริสตจักรภาคที่ 1 ดำเนินการก่อสร้างโดยห้างหุ้นส่วนจำกัด พายัพคอนสตรัคชั่น และ ใช้เวลาก่อสร้าง 132 วัน มีพิธีฉลองพระวิหารหลังใหม่ ในวันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1987 ประกอบพิธีโดยศาสนาจารย์ ดร.บุญรัตน์ บัวเย็น ประธานสภาคริสตจักรในประเทศไทย

การก่อสร้างบ้านพักศิษยาภิบาล

            บ้านพักศิษยาภิบาลหลังแรกเป็นบ้านสองชั้น ชั้นล่างก่ออิฐถือปูน ชั้นบนเป็นไม้ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1988 บนที่ดินด้านหลังพระวิหารหลังใหม่ ประกอบพิธีมอบถวายโดยศาสนาจารย์อรุณ ทองดอนเหมือน ร่วมพิธีโดยศาสนาจารย์สำราญ กวงแหวน และศาสนาจารย์จอห์น บัทท์ เพื่อเป็นที่พักของศิษยาภิบาล มีครูศาสนาดำรง อูปเงิน พักอาศัยเป็นเวลา 4 ปี (1989-1993) และศาสนาจารย์ธวัช จันตาใหม่ เป็นเวลา 12 ปี (1996-2008) คริสตจักรได้รื้อถอนบ้านพักหลังเก่าในปี ค.ศ. 2008 และได้สร้างขึ้นใหม่เป็นบ้านชั้นเดียวลักษณะคอนกรีตเสริมเหล็ก และได้ทำพิธีมอบถวาย เมื่อวันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 2013 ประกอบพิธีโดยศาสนาจารย์ ดร.บุญรัตน์ บัวเย็น ประธานสภาคริสตจักรในประเทศไทย

การตั้งการหมวดคริสเตียนพระกิตติคุณ รับอนุมัติเป็นคริสตจักร “วิวรณ์” และการสถาปนาเป็นคริสตจักร “บ้านป่าเหมือด”

คณะธรรมกิจและสมาชิกคริสตจักรป่าเหมือด ได้มีการนมัสการเพื่ออำลาอาคารโบสถ์หลังเก่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน ค.. 1987 และมีพิธีฉลองพระวิหารหลังที่ 2 ในวันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน ค.. 1987 หลังจากนั้น ได้ปิดอาคารโบสถ์หลังแรกเป็นเวลาประมาณ 1 ปี ต่อมาในการประชุมสัปปุรุษของคริสตจักรป่าเหมือดในเดือนพฤศจิกายน 1988 ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติให้รื้อฟื้นการใช้อาคารโบสถ์หลังแรกอีกครั้งหนึ่งตามความต้องการของสมาชิกของคริสตจักรป่าเหมือดที่มีอาศัยอยู่ในบริเวณตลาดป่าเหมือด ซึ่งเห็นว่าสมาชิกที่เป็นเด็กและผู้สูงอายุ ไม่สะดวกในการเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหน้าฝนจะลำบากมากเพราะถนนเป็นโคลนตลอดสาย    ดังนั้นที่ประชุมจึงตกลงอนุมัติให้ตั้งเป็น “หมวดคริสเตียนพระกิตติคุณ” โดยแบ่งสมาชิกตามความสมัครใจส่วนหนึ่ง การประชุมคณะธรรมกิจคริสตจักรป่าเหมือด สมัยสามัญครั้งที่ 3/1990 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน ค.. 1990 ที่ประชุมได้พิจารณาการขอเป็นคริสตจักรของหมวดกิตติคุณ ที่ประชุมมีมติที่ 22/1990 “สนับสนุนในการขอเปลี่ยนคริสตจักรของหมวดกิตติคุณ และให้ประธานทำหนังสือแจ้งไปยังภาคที่ 1”  ในการประชุมธรรมกิจคริสตจักรภาคที่ 1 สมัยสามัญประจำปี 1990 เมื่อวันที่ 25–28 เมษายน 1990 ณ คริสตจักรที่ 1 ฝาง ในการประชุมวาระที่ 16.1 พิจารณาเรื่องอนุมัติหมวดพระกิตติคุณเป็นคริสตจักร ที่ประชุมได้พิจารณาแล้วเห็นว่าหมวดพระกิตติคุณมีความพร้อมและเหมาะสมที่จะเป็นคริสตจักรได้เนื่องจากมิใช่จุดประกาศใหม่ แต่เป็นกลุ่มผู้เชื่อของคริสตจักรป่าเหมือดที่แยกตัวออกมาถูกต้องตามธรรมนูญสภาคริสตจักรฯ ทุกประการ จึงมี มติที่ ธภ. 16/1990 “อนุมัติให้หมวดพระกิตติคุณ เป็น คริสตจักรวิวรณ์ และให้กรรมการดำเนินงานภาคกำหนดวันสถาปนาต่อไป

ต่อมาทางสมาชิกและคณะกรรมการหมวดพระกิตติคุณได้เห็นว่าทางคริสตจักรป่าเหมือด ได้เปลี่ยนชื่อ    เป็นคริสตจักรสายธารพระพรแล้ว   ได้ตกลงเปลี่ยนชื่อคริสตจักร “วิวรณ์” ที่ได้รับอนุมติจากทางธรรมกิจคริสตจักรภาคที่ 1  มาเป็น “บ้านป่าเหมือด” เพื่อเป็นการอนุรักษ์ชื่อของคริสตจักรกับหมู่บ้านไว้ด้วยกัน  และมีพิธีสถาปนาการตั้งคริสตจักรฯ ในวันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม 1990 เวลา 10.00 ในขณะนั้น ผป.ศรีบุตร ศรีสุวรรณ เป็นประธานคณะธรรมกิจคริสตจักรบ้านป่าเหมือด และ ผป.ถวิล ชัยพิมาน ทำหน้าที่เลขานุการคริสตจักร

หมวดคริสเตียนพระกิตติคุณเริ่มต้นด้วยสมาชิกรวม 13 คนในปี 1990 มาเป็นคริสตจักรบ้านป่าเหมือด มีสมาชิกรวม 71 คน จำแนกเป็นผู้ใหญ่  59 คน และเด็ก 12 คน (ข้อมูล ณ ปี 2006)

คริสตจักร “ป่าเหมือด” เปลี่ยนชื่อเป็น “สายธารพระพร

คณะธรรมกิจคริสตจักรป่าเหมือด ในการประชุมสมัยสามัญครั้งที่ 4/1990 เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม  1990 และที่ประชุมสัปปุรุษเมื่อวันที่ กรกฎาคม 1990    ได้มีมติเห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อของคริสตจักรจากคำว่า ป่าเหมือด เป็น “สายธาพระพร” เพราะคำว่า “ป่าเหมือด” เป็นชื่อของหมู่บ้าน และที่ตั้งของอาคารพระวิหารในปัจจุบันก็มิได้ตั้งในพื้นที่ดังกล่าว เป็นการป้องกันมิให้เกิดความเข้าใจสับสน และได้จัดการนมัสการพระเจ้าและทำพิธีเปิดผ้าแพรคลุมป้ายชื่อของคริสตจักรที่เปลี่ยนแปลง ในวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 1990 โดยครูศาสนาดำรง อูปเงิน ซึ่งเป็นศิษยาภิบาลของคริสตจักร

ศิษยาภิบาลประจำคริสตจักรในอดีต

ครูศาสนาสมเพชร ธรรมชัย  (พฤษภาคม 1980  30 เมษายน 1982)     คริสตจักรป่าเหมือด

ศาสนาจารย์จอห์น บัทท์      (มกราคม 1987 – 30 มิถุนายน 1987) คริสตจักรป่าเหมือด

ครูศาสนาดำรง อูปเงิน        (ตุลาคม 1989  30 กันยายน 1993) คริสตจักรป่าเหมือด / คริสตจักรสายธารพระพร

ศาลาธารน้ำใจ และโครงการก่อสร้างอาคารห้องนมัสการและรวีวารศึกษา

            ศาลาธารน้ำใจเป็นอาคารไม้ชั้นเดียว สร้างขึ้นในปี 1992 สำหรับเป็นชั้นเรียนรวีวารศึกษา ห้องประชุม และการจัดกิจกรรมเอนกประสงค์ต่าง ๆ ด้วยอาคารได้ชำรุดทรุดโทรมหลังจากใช้งานมากว่า 25 ปี คริสตจักรจึงได้รื้อถอนและดำเนินการก่อสร้างอาคารห้องนมัสการและรวีวารศึกษาขึ้นเป็นอาคาร ชั้นลักษณะคอนกรีตเสริมเหล็ก ชั้น มีพิธีวางศิลาเสาเอก เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2019 ประกอบพิธีโดยศาสนาจารย์วิรัช โกยดุลย์ รองประธานสภาคริสตจักรในประเทศไทย

ที่มา

รักษ์  พรหมปาลิต (2010). ประวัติคริสตจักร (Church History) – คริสตจักรสายธารพระพร. คริสตจักรสายธารพระพร. https://sites.google.com/site/saitharnprapornchurch/our-directory

Sittichai Wimala
Librarian at Maejo University Archives

ข้อมูลทั่วไป General Information

Previous article

คริสตจักรลาหู่แบ๊บติสต์เชียงใหม่

Next article

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึก